เมื่อก่อนพวกผู้ใหญ่มักจะกินพืชสมุนไพรกัน หลักๆก็คือ ต้นลูกใต้ใบ และ ต้นเหงือกปลาหมอ เราเด็กๆก็อาสารับจ้างไปเก็บกันได้เงินกินขนมเล็กๆน้อยๆ
ต้นลูกใต้ใบ เป็นต้นไม้เล็กๆชอบขึ้นในที่แดดจัด งอกทั่วไปตามถนนหนทาง จะสูงประมาณ 1 ฟุต ใบประกอบแบบขนนกชั้นเดียว หรือง่ายๆก็ใบคล้ายต้นกระถินนั่นล่ะ ถ้าเราพลิกดูข้างใต้ใบ จะเห็นมีลูกกลมๆเล็กๆเกาะอยู่ตามก้านติดกับข้อใบ ที่ผู้ใหญ่เอามากินเพราะเชื่อว่ามันจะช่วยลดไขมันในเลือดและช่วยลดความดันโลหิต เรากับแม่มักจะไปเก็บที่ลานหลังอนามัยสวนใหญ่ (ปัจจุบันไม่มีอยู่แล้ว)
ที่นั่นจะเป็นลานกรวดโล่งกว้าง เหมาะที่ต้นลูกใต้ใบจะแข่งกันแทงยอดขึ้นมา คนเฝ้าอนามัยก็เลี้ยงหมาเยอะเสียด้วย แต่เราก็ไปเก็บจนคุ้นเคย
เมื่อเก็บได้เยอะแล้วเราก็จะเอามาล้างเอาเศษดินเศษหินออก แล้วก็เอาไปตากในกระด้งให้แห้ง จากนั้นก็จะเอามาต้ม
สีและกลิ่นของน้ำต้มลูกใต้ใบ จะทำให้เด็กทุกคนนึกถึงตอนแม่มดกำลังเอาส่วนผสมน่าหวาดผวาลงเคี่ยวเป็นยาพิษไปให้นางเอกในนิทานกินนั่นแหละ เมื่อน้ำงวดก็เติมน้ำลงไปใหม่เคี่ยวต่อจนน้ำสีเข้มปั้ด เด็กๆไม่มีใครกล้ากินหรอก เคยลองแล้วต้องบ้วนทิ้งเพราะทั้งขม ทั้งขื่น แต่อย่างโบราณเค้าคงว่าไว้ หวานเป็นลม ขมเป็นยา
แต่ปัจจุบันเค้าก็เลิกกินกันแล้วนะ กลับมากินยาแผนปัจจุบันกันหมด แต่ทุกครั้งที่เห็นต้นลูกใต้ใบตามท้องถนน มันก็ชวนให้เราคิดถึงเรื่องราวในอดีตครั้งยังเดินท่อกๆเก็บลูกใต้ใบใส่ถุงอยู่เสมอ ความทรงจำนี่มันทำให้มีความสุขนะแต่ก็เจ็บปวดใจที่รู้ว่าตัวเองไม่สามารถย้อนมันกลับคืนมาได้