🔴 ททท.จัดกิจกรรม “เที่ยวตามฝัน ครั้งหนึ่งในชีวิต” ส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสังคมให้ผู้ด้อยโอกาส

 

ททท. ร่วมกับ พันธมิตรหลายภาคส่วน จัดกิจกรรม “เที่ยวตามฝันครั้งหนึ่งในชีวิต” ได้กำหนดจัดกิจกรรม Fam Trip ภายใต้โครงการ “เมืองไทย ใครๆก็เที่ยวได้” ตามแนวคิด Tourism For All เพื่อมอบเป็นของขวัญให้กลุ่มผู้ร่วมเดินทาง ซึ่งจะทำให้สังคมไทยเข้มแข็ง ยั่งยืน และลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ตามนโยบายของรัฐบาล 
 
เมื่อวันที่ 24 – 25 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา ททท.ร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน จัดกิจกรรม “เที่ยวตามฝัน ครั้งหนึ่งในชีวิต” ภายใต้โครงการ “เมืองไทย ใครๆก็เที่ยวได้” ตามแนวคิด Tourism For All เพื่อมอบเป็นของขวัญและเปิดโอกาสพาเด็กด้อยโอกาส โรงเรียนอนุบาลหมู่บ้านเด็กสานรัก มูลนิธิ เที่ยวฟรีตามฝัน จำนวน 20 คน ในเส้นทาง พัทยา วันอาทิตย์ที่ 24 -25 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน ที่ผ่านมา มี นายวิศณุ อรุณบำรุงวงศ์ รองผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง และทีมงานรวมถึงสื่อมวลชนร่วมเดินทาง โดยได้รับเกียรติจาก นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้เกียรติเดินทางมาต้อนรับเด็กๆ และผู้ร่วมทริปอย่างเป็นกันเองในทริปนี้ด้วย
 
ซึ่งโปรแกรมการท่องเที่ยวในครั้งนี้เริ่มต้นออกเดินทางจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานใหญ่ ถ.เพชรบุรี เดินทางถึง RUBBERLAND พิพิธภัณฑ์แห่งแรกและแห่งเดียวในไทย ที่ให้ความรู้ความบันเทิงอย่างเต็มเปี่ยมเกี่ยวกับ “ยางพารา” พืชเศรษฐกิจสำคัญของไทย ความภูมิใจของคนทั้งประเทศ ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดโลก อีกทั้งสะท้อนวิถีชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของคนไทยได้เป็นอย่างดี เป็นแหล่งท่องเที่ยวแนว Edutainment สำหรับทุกคน ซึ่งมีโซนที่น่าสนใจ เช่น มหัศจรรย์ยางพารา ร่วมผจญภัยในโลกแห่งจิตนาการ ภายใต้แนวคิด “ถ้าโลกนี้มีแต่ยาง” จะเป็นอย่างไร จะรู้สึกอย่างไร ถ้าทุกอย่างเป็นยาง 100%
เปิดโลกแห่งจินตนาการ เพลิดเพลินไปกับของใช้ต่างๆ ที่ทำจากยางพาราขนามหึมา ที่จะทำให้ตื่นตาตื่นใจกับการร่วมผจญภัยในโลกแห่งจินตนาการอันไม่มีที่สิ้นสุด ภายใต้แนวคิด จะเป็นอย่างไรหากโลกนี้มีแต่ยาง เด็กๆ สนุกสนานและเพลิดเพลินกับกิจกรรมรวมถึงได้รับความรู้เกี่ยวกับเรื่องยางพาราเป็นอย่างมาก 
 
และในช่วงบ่าย เด็กๆ ได้มีโอกาสเติมเต็มความฝันด้วยการไปชมโลมาโชว์ ที่ Pattaya dolphin wold พัทยา จ.ชลบุรี สถานที่จัดการแสดงปลาโลมาโชว์ที่ใหญ่ที่สุดในพัทยา มีการแสดงโชว์ของปลาโลมาขี้เล่นสองสายพันธุ์ ได้แก่ ปลาโลมาห้วบาตร และ ปลาโลมาปากขวดสีชมพู ซึ่งปลาโลมาทั้งสองสายพันธุ์มีทักษะในการเรียนรู้ มีความสามารถในการแสดง โชว์ความทะเล้น น่ารักแสนรู้ ทักทายเล่นกับผู้ชม
แบ่งการแสดงเป็นรอบๆ รอบละ 45 นาที เต็มอิ่มกับโชว์ต่างๆ ของโลมาที่น่าตื่นตาตื่นใจ เช่น โชว์โลมาเต้านระบำ กระโดดโหม่งลูกบอล กระโดดลอดห่วง ฯลฯ และ สัมผัสความน่ารักกับโลมาแบบใกล้ชิดถ่ายรูปกับปลาโลมาสร้างความตื่นเต้นและสนุกสนานสร้างประสบการณ์อันแสนประทับใจให้กับเด็กๆ เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ภายในสถานที่ยังมีกิจกรรมอย่างอื่นที่น่าสนใจ สนามขับรถ atv, สวนน้ำ, สนามยิงปืนอัดลม และมีเมืองคาวบอยทาวน์ให้นักท่องเที่ยว นั่งรถม้าเพื่อชมบรรยากาศรอบสถานที่อีกด้วย
 
และในช่วงมื้อค่ำ เด็กๆ และผู้ร่วมทริปเดินทางมาร่วมรับประทานอาหารอิ่มอร่อยที่ ร้านอาหาร View Mare Beach Front ร้านอาหารสุดชิลวิวหลักล้าน ชมพระอาทิตย์ตกริมทะเลที่สวยงามก่อนเข้าที่พักพักผ่อนอย่างสบายที่ ณ Ravindra Beach Resort & Spa เป็นโรงแรมที่อยู่ในทำเลที่ตั้งที่สงบเงียบอยู่ติดริมทะเล ห่างจากหน้าหาดเพียง 100 เมตร และห่างจากเมืองพัทยา 15 นาที 
 
วันรุ่งขึ้นออกเดินทางไปยัง Monsters aquarium pattaya เป็นสถานที่รวบรวม ปลาน้ำจืดและสัตว์หลากหลายสายพันธุ์สัตว์แปลก สัตว์หายาก ทั้งไทยและต่างประเทศ มีอุโมงค์ปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ พร้อมกิจกรรมมากมาย เช่น การถ่ายรูปกับสัตว์และการให้อาหารปลาด้วยขวดนม และที่นี่ยังมีสัตว์ต่างๆ ให้ชมมากมาย สร้างความตื่นตาตื่นใจและประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับเด็กๆ และทุกคนได้สัมผัส
ก่อนจะปิดท้ายด้วยอาหารมื้อเที่ยงสุดอร่อยที่ร้านอาหาร “เจ๊จุ๊กซีีฟู้ด สาขา 3” ก่อนเดินทางกลับ ซึ่งตลอดทั้งทริปการเดินทางได้รับการดูแลและอำนวยความสะดวกจากทีมงานคุณภาพจาก Friday trip เป็นอย่างดี ทำให้เด็กๆ และผู้ร่วมทริปมีรอยยิ้มและสนุกสนานตลอดการเดินทาง
 
นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “กิจกรรมเที่ยวตามฝันครั้งหนึ่งในชีวิตก็จะมีกลุ่มหลักๆ อยู่ 2 กลุ่ม ซึ่งกลุ่มหลักๆ นี้ การท่องเที่ยวได้ดูสถิติแล้วเป็นกลุ่มที่ไม่มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยว คือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และกลุ่มผู้ด้อยโอกาส ซึ่ง 2 กลุ่มนี้ ตัวเลขอยู่ที่ 37.7% เป็นอัตราส่วนที่มาก เหตุที่เราถึงดำเนินโครงการ “เที่ยวตามฝัน ครั้งหนึ่งในชีวิต” เพราะว่าผู้มีรายน้อยเหล่านี้ไม่มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวเลย ต้องดูแลครอบครัวและในส่วนค่าใช้จ่ายในครัวเรือนค่อนข้างสูง จึงไม่มีโอกาสที่จะคิดด้วยซ้ำว่าจะได้ออกมาท่องเที่ยวแบบนี้ และอีกกลุ่มในกลุ่มของผู้ด้อยโอกาสนี้ชัดเจนมากๆ เพราะว่าได้อยู่กับมูลนิธิ อยู่กับบ้านเด็กกำพร้าต่างๆ 
 
ด้านในส่วนของผู้มีรายได้น้อยในส่วนนี้ทางเราเห็นความสำคัญของผู้มีรายได้น้อยและทำคุณประโยชน์ทำความดีให้กัสังคม เราจึงมองไปที่กลุ่มของ อพปร., อสม., อสส, อพม. กลุ่มเหล่านี้เขามีรายได้น้อยอยู่แล้วแต่ก็ยังช่วยเหลือสังคม โดยการมีเวลาว่างจากการทำงานก็ไปช่วยเหลือสังคมในกิจกรรมทำต่างๆ ที่เกิดขึ้น แต่ว่าการที่ได้ท่องเที่ยวมีโอกาสน้อยมากจริงๆ ที่เขาจะได้ท่องเที่ยว ทาง ททท. เองก็เล็งเห็นว่าผู้ทำความดีเหล่านี้ ในส่วนตรงนี้ทางทีมงานได้ไปสำรวจมาว่าทางกลุ่มต่างๆ อพปร., อสม., อสส, อพม. ที่ทำคุณประโยชน์ เขาไม่ได้อยากเดินทางไปท่องเที่ยวคนเดียว เพราะเขามีครอบครัวเขาอยากเดินทางไปกับครอบครัว ทางเราก็เลยคิดขึ้นมาว่าทำอย่างไรให้เขาได้เดินทางพร้อมกับครอบครัวเพื่อเที่ยวตามฝัน โดยทางเราให้โจทย์ไปว่า ครั้งหนึ่งในชีวิตคุณอยากไปเที่ยวที่ไหนในประเทศไทย เราก็จะจัดให้โดยการ Random ในส่วนตรงนี้ เพราะว่ากลุ่มพวกนี้มีจำนวนมากหลายล้านคน แต่ว่าทางเราก็ต้องกำหนดจำกัดจำนวนคนในส่วนตรงนี้ โดยการนำส่วนของผู้มีรายได้น้อยโดยยึดหลักของบัตรสวัสดิการสังคม กับบัตรอาสาสมัครต่างๆ ควบคู่กัน และให้ส่งมาที่ ททท. ตามจำนวนที่ ททท.กำหนดไว้ 100 รางวัล รางวัลหนึ่งเท่ากับว่าจะได้เดินทางไป ซึ่งอาจจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ หรือคุณลูกไปด้วยกัน ทั้ง 4 ท่าน ตั้งแต่ออกจากบ้านจนถึงไปเที่ยวเสร็จเรียบร้อยโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งขณะนี้ได้ผู้รับรางวัลมาแล้ว เรากำหนดการเดินทางต้นเดือนมีนาคมจนถึงเดือนกรกฎาคม เพราะสถานที่ต่างๆ ที่แต่ละท่านกำหนดไว้อาจจะเป็นเชียงใหม่ เป็นทะเล เป็นภูเก็ต เป็นสมุยก็มี และกรุงเทพฯ ก็มี ซึ่งกลุ่มเหล่านี้อมีอยู่ทั่วประเทศไทย 
 
ในส่วนของเด็กด้อยโอกาสนั้น ทางเราได้มีพันธมิตรเข้าร่วมโครงการเป็นกลุ่มบริษัทห้างร้านต่างๆ ที่เข้าร่วม เนื่องจากปีนี้ทางเราเริ่มดำเนินการเร็วไปจึงทำให้มีผู้ร่วมโครงการจำนวนน้อยรายคือ 13 ราย ซึ่ง 1 รายก็จะดูและ 1 มูลนิธิ ที่จะพาท่องเที่ยว อย่างเช่นทริปครั้งนี้ที่พามาก็เท่ากับว่าเป็นหนึ่งมูลนิธิที่ได้ออกมาท่องเที่ยวในส่วนของตรงนี้ แต่ส่วนนี้เป็นส่วนของ ททท. ที่ดำเนินการ เพื่อที่จะให้ผูู้้สื่อข่าวต่างๆ ได้ร่วมกันประชาสัมพันธ์เผยแพร่ ปีหน้าอาจจะมีคนเข้าร่วมในส่วนตรงนี้มากขึ้น ทำให้ผู้ด้อยโอกาสได้มีโอกาสออกเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น เพราะการเดินทางท่องเที่ยวเป็นการสร้างประสบการณ์และเป็นการสร้างสังคมที่ดี ทำให้คนที่ได้ออกมาเดินทางท่องเที่ยวมีความรู้และมีจิตใจที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และกล่อมเกลาจิตใจให้ดียิ่งขึ้น
 
นอกจากนี้โครงการก็ยังเปิดโอกาสให้ประชาชนในส่วนต่างๆ ได้ท่องเที่ยวได้ โดย ททท. ได้ดำเนินการติดต่อภาครัฐและเอกชนที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเป็นจำนวน 100 กว่ารายที่เข้าร่วมโครงการ มีทั้งให้ผู้ที่มีรายได้น้อยได้ท่องเที่ยวฟรีก็มี และในส่วนลดราคาพิเศษก็มี โดยใช้บัตรสวัสดิการสังคมยื่น ซึ่งทางแหล่งท่องเที่ยวที่ร่วมโครงการต่างๆ ก็จะแจ้งเลยว่าท่านได้รับสิทธิ์ได้เข้าฟรีหรือได้ชมฟรี หรือว่าได้รับสิทธิ์ในส่วนลดที่ทาง ททท. ได้ประสานงานกับภาครัฐหรือว่าเอกชนนั้นๆ และในเทศกาลงานบุญต่างๆ ททท. ก็เห็นความสำคัญในการทำบุญ ก็มีทั้งเรือและรถบริการให้ฟรีเพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับวันสำคัญทางศาสนาต่างๆ
 
สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเด็กๆ จะได้รับความสนุกสนานได้มาเห็นมุมมองด้านนอก เพราะว่าเด็กเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่บ้านหรือว่ามูลนิธิที่เขาดูแล และไม่ค่อยมีโอกาสได้มาเดินทางท่องเที่ยวเท่าไร ทำให้สุขภาพจิตของเด็กดีขึ้น เพราะว่า ททท. เล็งเห็นชัดเจนเลยว่าการท่องเที่ยวจะต้องเป็นเครื่องมือในการลดตวามเหลื่อมล้ำทางสังคม อยากจะให้กลุ่มต่างๆ ทั้งกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มผู้ด้อยโอกาสเดินทางท่องเที่ยวด้วย ซึ่งเราจะจัดต่อเนื่องทุกปีและเริ่มมาเป็นปีที่ 3 แล้ว ในส่วนของผู้ถือบัตรสวัสดิการสังคมและมีการ Random กลุ่มที่ทำความดี รวมถึงกลุ่มน้องผู้ด้อยโอกาสปีนี้นับเป็นปีแรกที่เพิ่มเติมจากกิจกรรมอื่นๆ ในส่วนของการเข้าฟรีในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ และในส่วนลดพิเศษครับ” นายอภิชัย กล่าว  
   
 
ด้านนางสาวญาณิกา นิลแจ้ง นักสังคมสงเคราะห์ โรงเรียนอนุบาลหมู่บ้านเด็กสานรัก มูลนิธิ เผยว่า “สำหรับโครงการ “เมืองไทยใครๆ ก็เที่ยวได้” จัดให้ได้เที่ยวตามฝันครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ ททท. จัดให้เรามูลนิธิเด็กในครั้งนี้ เรารู้สึกมีความสุขมากๆ เลยค่ะ เห็นเด็กๆ มีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะ พวกเราที่เป็นเจ้าหน้าที่ก็รู้สึกดีใจและประทับใจไปด้วย ซึ่งน้องๆ นานๆ ครั้งที่จะได้มาเที่ยวทะเลสวยๆ แบบนี้ หรือว่าได้ดูโชว์โลมา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นตัวจริงและได้สัมผัส ได้จับโลมาตัวเป็นๆ เลย และน้องๆ ก็มาคุยให้ฟังว่า โลมามีลักษณะแข็งๆ และลื่นๆ เขาก็ตื่นเต้นกันมากๆ ได้เปลี่ยนบรรยากาศในการนอน ได้เห็นว่าเด็กๆ ตื่นเต้นกันมากๆ เลยค่ะ และชอบมากๆ เด็กๆ ได้นอนหลับสบายและตื่นเต้นกับอ่างอาบน้ำ ชอบมาก ได้ตีฟอง เล่นกันในห้องน้ำสนุกสนาน และได้ไปเล่นน้ำทะเลกันด้วยค่ะซึ่งเด็กๆ หลายคนไม่เคยได้สัมผัส และบอกว่าน้ำทะเลมีรสเค็ม
 
อยากขอบคุณ ททท. ที่มอบโอกาสดีๆ ให้กับเด็กๆ ในมูลนิธิเด็กและอยากให้มีโครงการดีๆ แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นจัดกิจกรรมให้ทางมูลนิธิเด็กเองหรือว่าจัดกิจกรรมให้กับมูลนิธิหรือสถานสงเคราะห์อื่นๆ เพื่อที่จะเติมเต็มและตามความฝันให้กับเด็กๆ เพราะเชื่อว่า เด็กที่ขาดโอกาสหรือว่าด้อยโอกาสทางสังคม เขาก็อาจจะไม่มีโอกาสได้มาเที่ยวตามสถานที่สวยๆ งามๆ แบบนี้ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ ททท. จัดต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ เพื่อเป็นกำลังใจให้ค่ะ”
 
ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ (ททท.) ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก ศูนย์อำนวยการท่องเที่ยวกองทัพเรือ กองทัพอากาศ พันธมิตรหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน จัดโครงการ “เมืองไทย ใครๆ ก็เที่ยวได้” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายโอกาสทางการท่องเที่ยวและใช้กิจกรรมท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่คนไทยที่มีรายได้ต่ำกว่า 10,000 บาท/เดือน รวมไปถึงกลุ่มผู้ด้อยโอกาส คนพิการ เด็กและคนชรา ซึ่งในปีนี้ได้จัดโครงการขึ้นเป็นปีที่ 3 โดยมีกิจกรรมที่ดำเนินการเพิ่มเติมขึ้นเป็นพิเศษ คือการจัดกิจกรรม “เที่ยวตามฝัน ครั้งหนึ่งในชีวิต” มอบแพ็คเกจท่องเที่ยวเป็นของขวัญให้กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวข้างต้น รวมไปถึงกลุ่มที่ทำความดีเพื่อสังคม ให้ได้มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยว เป็นไปตามแนวคิด Tourism For All ซึ่งจะทำให้สังคมไทยเข้มแข็ง ยั่งยืน และลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ตามนโยบายของรัฐบาล 
www.indyreport.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *