🔴 ททท. “เมืองไทยใครๆ ก็เที่ยวได้ “ จัดโครงการ “เที่ยวตามฝันครั้งหนึ่งในชีวิต” มอบแพ็คเก็จท่องเที่ยวเป็นของขวัญให้กลุ่มอาสาสมัครผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีผลงานดีเด่นตลอดปี

 

 

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก ศูนย์อำนวยการท่องเที่ยวกองทัพเรือ กองทัพอากาศ พันธมิตรหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน จัดโครงการ “เมืองไทย ใครๆ ก็เที่ยวได้” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายโอกาสทางการท่องเที่ยวและใช้กิจกรรมท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่คนไทยที่มีรายได้ต่ำกว่า 10,000 บาท/เดือน รวมไปถึงกลุ่มผู้ด้อยโอกาส คนพิการ เด็กและคนชรา ซึ่งในปีนี้ได้จัดโครงการขึ้นเป็นปีที่3 โดยมีกิจกรรมที่ดำเนินการเพิ่มเติมขึ้นเป็นพิเศษ คือการจัดกิจกรรม “เที่ยวตามฝัน ครั้งหนึ่งในชีวิต” มอบแพ็คเกจท่องเที่ยวเป็นของขวัญให้กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวข้างต้น รวมไปถึงกลุ่มที่ทำความดีเพื่อสังคม ให้ได้มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยว เป็นไปตามแนวคิด Tourism For All ซึ่งจะทำให้สังคมไทยเข้มแข็ง ยั่งยืน และลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ตามนโยบายของรัฐบาล

 

 

 

 

ดังนั้นเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์รูปแบบการจัดกิจกรรม “เที่ยวตามฝัน ครั้งหนึ่งในชีวิต” จึงได้กำหนดจัดกิจกรรม Fam Trip เส้นทางกรุงเทพฯ-ชะอำ หัวหิน ในวันที่ 3- 4 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน ที่ผ่านมา โดยมีกลุ่มอาสาสมัครที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 20 คนร่วมเดินทางในครั้งนี้ นายวิศณุ อรุณบำรุงวงศ์ รองผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง และทีมงานรวมถึงสื่อมวลชนร่วมเดินทาง โดย นายอัครวิชย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการสำนักงานการทรองเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเพชรบุรี ให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเองในงานเลี้ยงต้อนรับในช่วงค่ำ ณ ธารา มันตรา ชะอำ รีสอร์ท จ.เพชรบุรี

 

 

 

 

ซึ่งโปรแกรมการท่องเที่ยวในครั้งนี้เริ่มต้นออกเดินทางจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานใหญ่ ถ. เพชรบุรี เดินทางถึง โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย ซึ่งตั้งอยู่ที่แหลมผักเบี้ย จ.เพชรบุรี เป็นพื้นที่แปลงทดลองของโครงการตามแนวพระราชดำริเกี่ยวกับการพัฒนาและฟื้นฟูป่าชายเลน และสถานีบำบัดน้ำเสียชุมชน โดยยึดหลักการ “ธรรมชาติช่วยธรรมชาติ” เป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านในพื้นที่ใช้เป็นแหล่งประกอบอาชีพอื่นๆ จากผลผลิตจากสภาพธรรมชาติที่ดีอันเนื่องมาจากโครงการฯ เช่นการใช้พืชที่ปลูกไว้ใช้ในการกรองน้ำเสีย เช่น กกธูป เพื่อทำจักสาน, การทำประมงและจับสัตว์น้ำในพื้นที่ป่าชายเลนที่เกิดขึ้นใหม่ เป็นต้น

 

 

 

 

แวะรับประทานอาหารกลางวันที่ ครัวไข่มุก ปูเป็น อาหารทะเลสดริมหาดเจ้าสำราญ จากนั้นในช่วงบ่าย เดินทางไปเยี่ยมชม สวิส ชีพ ฟาร์ม (Swiss Sheep Farm) ฟาร์มแกะแบบสวิตเซอร์แลนด์ ท่ามกลางขุนเขาแห่งความรักที่อบอุ่นในสไตล์ฟาร์มแบบยูโรคันทรี มีสนามหญ้าเขียวๆ และให้อาหารแกะที่ขนฟูน่ารัก มีมุมถ่ายรูปสวยๆ ไว้ให้เช็คอินถ่ายภาพมากมาย หลังจากนั้นเดินทางเข้าที่พักในชะอำ ที่ ธารา มันตรา ชะอำ รีสอร์ท และร่วมรับประทานอาหารมื้อค่ำ สนุกกับ ปาร์ตี้ ย้อนวัยหวาน กับกิจกรรมคาราโอเกะร้องเพลงอย่างสนุกสนานและเป็นกันเอง

 

 

 

ส่วนกิจกรรมในวันที่สอง แวะเทียว ชิม แชะ ช้อป ที่ตลาด เพลินวาน และซื้อของฝากของที่ระลึก จากนั้นเดินทางไปที่ร้านอาหารบ้านอิสระ พร้อมรับประทานอาหารกลางวัน ก่อนเดินทางกลับแวะกราบสักการะหลวงพ่อโต องค์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่ วัดห้วยมงคล และเดินทางออกจากหัวหินมุ่งกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ

 

 

นายอัครวิชย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเพชรบุรี กล่าวว่า “ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมเที่ยวตามฝันครั้งหนึ่งในชีวิต FAM Trip ภายใต้โครงการ “เมืองไทยใครๆ ก็เที่ยวได้” กิจกรรมเที่ยวตามฝันครั้งหนึ่งในชีวิต ย้อนไปเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม  2561 ที่ผ่านมา ททท. ได้เปิดตัวกิจกรรม เที่ยวตามฝันครั้งหนึ่งในชีวิต ภายใต้โครงการ “เมืองไทย ใครๆ ก็เที่ยวได้”  เปิดโอกาสให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ทำความดีเป็นจิตอาสาปฏิบัติงานช่วยเหลือสังคมทั่วประเทศ  ได้แก่ กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.), กลุ่มอาสาสมัครกรุงเทพมหานคร (อสส.) ,กลุ่มอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.),กลุ่มอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ประจำหมู่บ้าน (อพม.)  ร่วมกิจกรรมลุ้นรางวัลแพ็คเก็จเที่ยวฟรีตามฝันทั้งครอบครัว จำนวน 4 คน รวม 100 รางวัล   ซึ่ง ททท. จัดให้ เพื่อแทนคำขอบคุณและตอบแทนความดี ที่แม้ว่าจะเป็นผู้มีรายได้น้อยแต่มีจิตใจที่เสียสละอย่างยิ่ง โดยวันที่ 10 มกราคม 2562 ททท. ได้ทำการประกาศผลผู้ที่ได้รับรางวัลทริปเที่ยวฟรีตามฝัน จำนวน 100 รางวัลเป็นที่เรียบร้อย

และสำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ ททท. ได้จัดกิจกรรมทริปสุดพิเศษ “เที่ยวตามฝันครั้งหนึ่งในชีวิต FAM Trip”   เพื่อมอบเป็นของขวัญให้กับกลุ่มอาสาสมัครกรุงเทพมหานคร (อสส.) และ กลุ่มอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ที่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีผลงานดีเด่นตลอดปี 2561 จำนวน 20 คน โดยประธานเขตทั่วกรุงเทพฯเป็นผู้ส่งรายชื่อ อส.ดีเด่น เพื่อเข้าร่วมทริปเที่ยวฟรีตามฝัน เส้นทาง ชะอำ-หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 2 วัน 1 คืน ในครั้งนี้

ของขวัญสำหรับอาสาสมัครที่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นอกจากนี้ ททท. ยังได้รับความร่วมมือจาก พันธมิตรทางการท่องเที่ยว ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก ศูนย์อำนวยการท่องเที่ยวกองทัพเรือ กองทัพอากาศ และแหล่งท่องเที่ยวของพันธมิตรอื่นๆ กว่า 100 แห่ง เปิดพื้นที่ท่องเที่ยวในเขตทหารให้เที่ยวฟรีและมอบส่วนลดพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกคน ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือน กรกฎาคม 2562 โดยทุกท่านสามารถสอบถามรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวได้ที่ ฝ่ายกองตลาดภาคกลาง โทร. 02 250 5500 ต่อ 1341 1337 หรือ 1377

ทั้งนี้จังหวัดเพชรบุรีมีศักยภาพและมีความสมบูรณ์มาก ที่นี่มีโครงการพระราชดำริภาคกลางมากที่สุด มีความพร้อมในหลายๆ ด้าน ทางจังหวัดเพชรบุรีจึงได้ทำโครงการภายใต้ร่มใหญ่ “เมืองไทยใครๆ ก็เที่ยวได้” และของเราใช้ชื่อว่า “ศาสตร์ศรัทธา” ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 ศาสตร์ ศาสตร์แรกคือ ศาสนา ในจังหวัดเพชบุรี ซึ่งมีคนเคยเปรียบเปรยว่าเป็นเหมือนอยุธยาที่ยังมีชีวิต มีความงดงามวิจิตรมากและมีความสำคัญ ศักดิ์สิทธิ์ ศาสตร์ที่สอง คือ ศาสตร์พระราชา เนื่องจากมีโครงการพระราชดำริเป็นจำนวนมาก มีมรดกโลกอยู่ในจังหวัดเพชรบุรี และศาสตร์ที่สาม คือ ศาสตร์วัฒนธรรมคือเรื่องอาหาร ก็จะครบถ้วนให้เดินทางมาท่องเที่ยว ได้ซึมซับวัฒนธรรม การเรียนรู้ และ อาหาร ซึ่งเป็นเทรนของการท่องเที่ยวอยู่แล้ว และจะเริ่มแถลงข่าวในวันที่ 14 กัมภาพันธ์นี้แล้ว ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นการนำผู้มีรายได้น้อยรวมทั้งผู้พิการทางสายตา เดินทางโดยรถไฟจากหัวลำโพงถึงเพชรบุรีประมาณ 09.45 น. จากนั้นจึงเดินทางต่อโดยรถเล้ง สองแถวเล็กนำเที่ยวซึ่งเป็นรถท้องถิ่น และได้ติดสติกเกอร์ข้างรถเป็นรถบริการสำหรับการท่องเที่ยว เป็นการเที่ยว One day trip ในเส้นทางที่จัดไว้ใจให้ เมื่อลงจากรถไฟแล้ว รถเล้งก็จะพาไปเที่ยววัดต่างๆ ที่สำคัญ 3 วัด และเที่ยว 1 วัง คือ วังบ้านปืน และเที่ยวชุมชน 2 ชุมชน คือ ชุมชนริมน้ำย่านเมืองเก่าเพชรบุรี โดยมีไกด์ท้องถิ่นหรือปราชญ์ชาวบ้านที่ผ่านการอบรมคอยให้คำแนะนำ สำหรับนักท่องเที่ยวซึ่ง ททท. ทำร่วมกับรถไฟทางรถไฟ และอนาคตก็จะทำร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ด้วย และเปลี่นเส้นทาท่องเที่ยวให้หลากหลายขึ้น

 

 

นายอัครวิชย์ ยังกล่าวอีกว่า “สำหรับในการจัดทริปครั้งนี้ เป็นสิ่งที่ดีมากที่จัดในวันอาทิตย์และวันจันทร์ ซึ่งตรงกับการผลักดันในเรื่องของเมืองรองในวันธรรมดาน่าเที่ยว ซึ่งทาง ททท.เพชรบุรี ได้จัดกิจกรรมท่องเที่ยววันธรรมดา “Outing@Cha-am 1st (Let’s go outing)” ตอน “ปิ้งหอยคอยเธอ” ในวันอังคาร และวันพุธ  ทำ 3 เดือนด้วยกันและจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 27 กุมภาพันธ์  นอกจากนี้ จังหวัดเพชรีบุรียังมี งานพระนครคีรี-เมืองเพชร ครั้งที่ 33 ประจำปี 2562 “วิมานฟ้าพระนครคีรี อัญมณีแห่งสยาม” ที่จัดจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 8-17 กุมภาพันธ์ 2562 นี้ จึงขอเชิญชวนแต่งชุดไทยตลอดทั้งเดือนเที่ยวพระนครคีรี และเสน่ห์ของงานนี้ที่ไม่มีวันเปลี่ยนคือการห่มพระนครคีรีด้วยแสงไฟ การจุดพลุเฉลิมฉลองทุกคืนให้ชมอีกด้วย” นายอัครวิชย์ กล่าว

 

 

ขณะที่ นายสิทธิชัย ทรัพย์เย็น เลขานุการ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กรุงเทพมหานคร และ ประธาน อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน เขตบางกะปิ เผยว่า “สำหรับเกณฑ์การคัดเลือก อาสามัคร (อพปร.) และ (อสส.) ที่มาในวันนี้ เราจะดูจากการทำงานของแต่ละคนและแต่ละเขต ก็จะมีประธานกลุ่มเขต หัวหน้ากลุ่มเขตที่พิจารณาเขตละ 2 คน เราก็รวมตัวมาร่วมทริป และต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่เห็นความสำคัญของจิตอาสาในครั้งนี้ ที่ได้นำพวกเรามาพักผ่อน และได้สูดอากาศบริสุทธิ์หายใจที่เหมาะมากเพราะช่วงนี้ที่หนีฝุ่นละอองในกรุงเทพมหานครมา อยากให้มีโครงการดีๆ แบบนี้ต่อไปเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเราพวกจิตอาสา ขอขอบคุณมากตรับ”

 

 

ด้านนางสาวศิริวรรณ เมธีธรรยาพงษ์ อาสาสมัครสาธารณสุข หรือต่างจังหวัดเรียกว่า (อสม.) ส่วนในกรุงเทพฯ เรียกว่า (อสส.) หนึ่งในผู้ร่วมทริป กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้มาร่วมทริปนี้ว่า “เป็นอาสาสมัคร อพปร. และในเวลาว่างและบางครั้งก็เกินเวลาทำงานด้วยและเป็นอาสมัครสาธารณสุข อสส. ทำงานแทบจะ 24 ชั่วโมงในการทำงานซึ่งเป็นงานอาสาสมัคร รู้สึกดีใจที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้เล็งเห็นคุณค่าของอาสาสมัคร ได้จัดโครงการให้ท่องเที่ยวฟรี ก็ขอขอบคุณทุกหน่วยงาน ทุกภาคส่วนที่ให้กำลังใจพวกเราในการทำงานต่อไป เป็นงานที่ไม่ได้มีรายได้ค่าตอบแทนอะไร ทำด้วยใจมาตลอด และที่สำคัญต้องขอขอบคุณทาง ททท. เป็นอย่างมากเพราะที่ผ่านมาไม่เห็นมีหน่วยงานไหนที่มาให้การส่งเสริมหรือสนับสนุน ซึ่งเป็นคุณค่าทางจิตใจทำให้เรามีพลังที่จะกลับไปทำงานต่อเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ถึงเราไม่ได้มีฐานะร่ำรวย หรือเป็นเจ้าของกิจการใด เราเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งทาง ททท. ก็เปิดโอกาสให้พวกเราได้มาเที่ยวได้มาเห็นอะไรที่กว้างขึ้น เพื่อมีกำลังใจในการทำงานต่อไปค่ะ ขอขอบพระคุณมากค่ะ”

 

นอกจากนี้ สำหรับกิจกรรมในครั้งต่อไป ททท. ได้จัดกิจกรรมทริปสุดพิเศษ “เที่ยวตามฝันครั้งหนึ่งในชีวิต FAM Trip”  เพื่อมอบเป็นของขวัญให้กลุ่มผู้ร่วมเดินทาง โรงเรียนอนุบาลหมู่บ้านเด็กสานรัก มูลนิธิ จำนวน 20 คน ในเส้นทาง พัทยา วันอาทิตย์ที่ 24 -25 กุมภาพันธ์ 2562   อีกด้วย

www.indyreport.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *