ช้อปได้ทั้งออนไลน์และร้านหนังสือ สำนักพิมพ์คึกคักออกหนังสือใหม่กว่า 600 ปก พร้อมเสวนาประเด็นร้อน เริ่ม 23-31 ตุลาคมนี้
งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ โดยสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) จัดขึ้นทุกปีในระหว่างเดือนตุลาคม ถือเป็นงานใหญ่ของคนรักหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นนักอ่าน นักเขียน และผู้คนในวงการหนังสือต่างรอคอยช่วงเวลาแห่งมิตรภาพ เพื่อพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพลิดเพลินกับการเลือกซื้อหนังสือหลากหลายทั้งเก่าและใหม่ ในบรรยากาศคุ้นเคย เรียกได้ว่างานหนังสือเป็นที่รวมทั้งนักอ่านและหนังสือไว้มากที่สุดงานหนึ่งในประเทศ แต่ด้วยการระบาดของโรคโควิด 19 ในปีนี้ นอกจากจะทำให้วิถีชีวิตของเราเปลี่ยนแปลงไป ยังส่งผลถึงงานมหกรรม หนังสือฯ ซึ่งไม่สามารถจัดในรูปแบบเดิมได้ กลายเป็นโจทย์ที่ท้าทายสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ จะปรับเปลี่ยนรูปแบบงานอย่างไรให้สอดคคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน จึงเป็นที่มาของการจัดงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 26 Hybrid Bookfair 2564
ทิพย์สุดา สินชวาลวัฒน์ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 26 Hybrid Book Fair 2564 จะเป็นครั้งแรกของงานหนังสือที่จัดบนโลกออนไลน์พร้อมกับร้านหนังสือ ช่องทางออนไลน์จะมี สำนักพิมพ์เข้าร่วมงาน 177 แห่ง และเป็นครั้งแรกของการจัดงานมหกรรมหนังสือฯ ในร้านหนังสือ โดยจะมีร้านหนังสือเชน (ร้านหนังสือขนาดใหญ่ที่มีสาขา) ได้แก่ ร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ ร้านนายอินทร์ ร้านบีทูเอส และศูนย์หนังสือจุฬาฯ ซึ่งร้านเชนทั้งหมดมีสาขาทั่วประเทศรวมกันกว่า 500 ร้าน และร้านหนังสืออิสระกว่า 50 ร้านทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด พร้อมหนังสือออกใหม่ที่จะวางจำหน่ายในงานจากสำนักพิมพ์ต่าง ๆ กว่า 650 ปกอีกด้วย ธีมการจัดงานครั้งนี้เสนอประเด็นชวนถก อ่านออก เถียงได้ อ่านออกคือการอ่านเพื่อหาข้อมูล เมื่อมีข้อมูลแล้วก็จะนำมาสู่กระบวนการ คิด-วิเคราะห์-แยกแยะ เกิดเป็นความรู้ เถียงได้ คือการนำความรู้มาถกเถียงและวิพากษ์อย่างสร้างสรรค์ทางความคิด เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ต่อไป และจากแนวคิดนี้ จะนำมาสู่กิจกรรมสนุก ๆ ที่จะเกิดในงานอีกด้วย”
กิจกรรมหลักของงานมหกรรมหนังสือฯ ครั้งนี้ จะผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก นักอ่านและผู้สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ทางแฟนเพจ Thai Book Fair การเสวนาจากสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ และสำนักพิมพ์ต่าง ๆ ผ่านทาง Facebook Live และโปรแกรม Zoom นำเสนอประเด็นสนทนาที่เกี่ยวกับหนังสือ การอ่าน และประเด็นที่กำลังได้รับความสนใจในสังคม โดยเชิญทั้ง นักเขียน และผู้ที่มีชื่อเสียงร่วมพูดคุย
สำหรับการเลือกซื้อหนังสือจากสำนักพิมพ์ต่าง ๆ สามารถเลือกซื้อได้จากช่องทางหลักต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น www.ThaiBookFair.com, JD Central, Lazada, Shopee และเว็บไซต์ของสำนักพิมพ์ ซึ่งแต่ละแพลทฟอร์มจะมอบโปรโมชั่นพิเศษมูลค่ารวมกันกว่า 3,500,000 ล้านบาทให้เพื่อนนักอ่านได้ช้อปกันอย่างจุใจ และพิเศษสำหรับนักอ่านที่คิดถึงการเดินงานหนังสือ การได้สัมผัสหนังสือเล่มด้วยตัวเอง สามารถไปเยี่ยมชมร้านหนังสือที่เข้าร่วมงานทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดที่เข้าร่วมงาน เพื่อไปเลือกหนังสือด้วยตัวเอง ร้านหนังสือที่เข้าร่วมกิจกรรมจะมีกิจกรรมพิเศษที่จัดขึ้นเพื่อร่วมฉลอง HYBRID Book Fair 2564 พร้อมของที่ระลึกพิเศษมอบให้นักอ่านที่เลือกซื้อหนังสือในระหว่างการจัดงานอีกด้วย
“จากข้อมูลของสำนักหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร การออกเลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ (ISBN) สิ่งพิมพ์ประเภทหนังสือที่ออกใหม่ ปี 2562 จำนวน 17,771 เล่ม ปี 2563 จำนวน 15,987 เล่ม และใน 6 เดือนแรกของปีนี้ จำนวน 8,600 เล่ม เป็นข้อมูลที่ยืนยันได้ว่า คนไทยยังอ่านหนังสือ และอ่านเยอะมากด้วย เมื่อนักอ่านยังต้องการอ่าน เราคนทำหนังสือก็ยังยืนยันที่จะสู้ต่อไป การจัดงานครั้งนี้เพื่อส่งความคิดถึงและกำลังใจทั้งกับผู้อ่านและพวกเราคนทำหนังสือ รวมทั้งส่งเสียงไปยังภาครัฐให้ตระหนักถึงความสำคัญในการสนับสนุนและส่งเสริมอุตสาหกรรมหนังสือในประเทศอย่างเป็นรูปธรรม เตรียมพร้อมเพื่อการกลับมาของงานหนังสือที่เรารอคอยรูปแบบนิวนอร์มัลใน ปีหน้า” ทิพสุดา กล่าวทิ้งท้าย
นักอ่านสามารถติดตามข่าวสารและร่วมกิจกรรม Hybrid Bookfair 2564 ผ่าน เฟซบุ๊กแฟนเพจ Thai Book Fair พร้อมช้อปหนังสืออย่างจุใจ ผ่านทางช่องทางออนไลน์ 24 ชั่วโมงได้ที่ ThaiBookFair.com, JD Central, Lazada, Shopee และเว็บไซต์ของสำนักพิมพ์ หรือเลือกช้อปหนังสือจากร้านหนังสือใกล้บ้านที่เข้าร่วมงานได้ ตั้งแต่วันที่ 23-31 ตุลาคม 2564
……………………………………………………
📍www.indyreport.com