ชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยวจัดกิจกรรมสำหรับสื่อสมาชิก ช.ส.ท. และสมาชิกวัยเก๋ากว่า 50 คน นำโดย คุณวรางคณา สุเมธวัน ประธานชมรมสื่อมวลขนส่งเสริมการท่องเที่ยว (ช.ส.ท.) กำหนดเดินทางไปทัศนศึกษา โครงการ “สุขทันที…ที่เที่ยวระยอง ” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดระยอง ระหว่างวันที่ 9 -11 พฤษภาคม 2568 โดยได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานระยอง
คุณวรางคณา สุเมธวัน ประธานชมรมสื่อมวลขนส่งเสริมการท่องเที่ยว (ช.ส.ท.) เผยว่า… ” วัตถุประสงค์ของชมรมในการจัดท่องเที่ยวในภูมิภาคภาคตะวันออกในครั้งนี้ ซึ่งตามเทศกาลแล้วช่วงนี้เป็นช่วงที่มีผลไม้สารพัดสามารถลิ้มลองได้ที่นี่ และพาคณะมาร่วมอยู่ในโครงการบุฟเฟ่ต์ทุเรียนของจังหวัดระยอง ที่สวนสุภัทราแลนด์ ซึ่งที่นี่ก็จะได้ชิมผลไม้ที่มีรสชาติอร่อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งทุเรียน ที่หลายคนชื่นชอบ
และพื้นที่ชุมชนที่เราจะเข้าไปชมวิถีชีวิต “ชุมชนทะเลน้อย” ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งที่ชมรมไม่เคยพลาดที่จะเข้าไปให้การประชาสัมพันธ์สืบต่อวัฒนธรรมและวิถีชีวิตชุมชน นอกจากนี้ระยองยังมีจุดประวัติศาสตร์ที่ทุกคนต้องไม่ลืม ก็คือจุดที่สมเด็จพระเจ้าตากสินได้แวะมาพักทัพที่นี่ก่อนที่จะเข้าตีเมืองจันทบุรี นี่คือประวัติศาสตร์ของชาติไทย ซึ่งพวกเราผ่านมาก็ควรที่จะได้มาถวายการสักการะพระองค์ท่าน ซึ่งทำให้ชาติไทยได้สืบต่อมาจนถึงทุกวันนี้
อีกจุดหนึ่งคือ “เรือหลวงประแส” เรือหลวงของเราที่ได้เคยออกสมรภูมิน่านน้ำไทย ปัจจุบันนี้ได้ปลดระวางลง และตั้งอยู่บนพื้นหาดทราย ให้พวกเราได้ไปชมและศึกษาพิจารณาว่าเรือหลวงแต่ละลำนั้นมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างไร ได้ทำหน้าที่ในการปกป้องน่านน้ำของไทยอย่างไร
อีกมากมายหลายอย่างของจังหวัดระยอง ซึ่งชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว ในฐานะที่เป็นสื่อกลางในการท่องเที่ยว เราก็พร้อมที่จะนำทุกสิ่งทุกอย่างเหล่านี้ นำเสนอเพื่อไปถึงสายตาพี่น้องคนไทยทุกท่านและนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในเมืองไทย ได้รับรู้ว่าที่นี่คือศักยภาพทางการท่องเที่ยวระยอง เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่เป็นทำลายทอง ทั้งทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ถ้าผ่านมาอย่าลืมแวะมาเที่ยวระยองนะคะ สุขทันที…ที่เทึ่ยวระยอง ค่ะ ”
จุดสตาร์ท คณะออกเดินทางเวลา 06.30 น. จากสถานีบริการน้ำมัน ปตท. วิภาวดี โดยรถทัวร์ VIP ปรับอากาศ 2 ชั้น และรถตู้ 1 คัน โดยมีหมุดหมายที่จังหวัดระยอง ” สุขทันที..ที่เที่ยวระยอง” ( 3 วัน 2 คืน )
วันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม 2568 : วัดลุ่มมหาชัยชุมพล –สวนสุภัทราแลนด์ – จุดชมวิวเขาโบสถ์ จุดชมวิวเมืองระยอง
วัดลุ่มมหาชัยชุมพล หรือ วัดลุ่ม คยเป็นที่ตั้งประทับแรมของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เมื่อครั้งเป็นพระยาวขิรปราการ นำทัพทหารกล้า 500 คน ตีฝ่าวงล้อมพม่าออกจาก กรุงศรีอยุธยา มุ่งออกสู่หัวเมืองชายทะเลฝั่งตะวันออก จนกระทั่งมาถึงจังหวัดระยอง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่กรุงศรีฯแตกพอดี พระยาตากตั้งค่ายชุมพล ณ บริเวณวัดลุ่ม เป็นที่มาของคำต่อท้ายชื่อวัดลุ่มว่า “มหาชัยชุมพล” คณะเข้ากราบสักการะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช น้อมรำลึกวีรกรรมกอบกู้เอกราช
จากนั้นเดินทางไป “สวนสุภัทราแลนด์” รับประทานอาหารกลางวัน และบุฟเฟ่ทุเรียนและผลไม้นานาชนิด ณ สุภัทราแลนด์ ที่งานนี้ขนทัพผลไม้ เงาะ ลองกอง มังคุด สละ และไฮไลท์คือ ทุเรียน ราชาผลไม้ ที่ยกทัพมาหลายสายพันธุ์ให้เลือกลิ้มลอง รวมถึงอาหารอื่นๆ ที่มีทั้ง ลูกชิ้นยืนกิน สลัดผัก ข้าวเหนียว ส้มตำ หมูปิ้งนมสด ของคาวของหวานของทานเล่นอีกมากมายให้ได้เลือกอร่อยแบบจุกๆ
นั่งรถรางเที่ยวชมสวนผลไม้และฐานความรู้ต่าง ๆ ของสวนสุภัทราแลนด์และสถานที่ตกแต่งตามจุดต่างๆ อย่าสวยงาม เรียนรู้การผสมเกสร ”สละ” ด้วยแป้งเด็กแคร์ ผลไม้ที่ถูกปากหลายคน สำหรับสละที่นำมาผสมเกสรโชว์เป็นพันธ์สละสุมาลี เป็นการนำดอกสละตัวผู้ผสมกับช่อดอกตัวเมีย คณะได้ทดลองทำและทดลองชิมสละสุมาลีด้วย
จากนั้นเดินทางไป “จุดชมวิววัดเขาโบสถ์” บนยอดเขาใน ตำบลทับมา อำเภอเมืองระยอง ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่มีสะพานแขวนสีเขียว ขึงด้วยลวดสลิง ยาวกว่า 75 เมตร ซึ่งจุดชมวิวนี้สามารถมองเห็นภูเขาตัดกับท้องฟ้าสวยงาม ที่นี่มีรถสองแถวให้บริการเพื่อขึ้นชมด้วย สามารถติดต่อกับทางวัดได้เลย
เดินทางต่อไปยังหาดแสงจันทร์ รับประทานอาหารเย็น ณ ครัวลุงระ หาดแสงจันทร์ สัมผัสบรรยาการชายทะเลก่อนเข้าที่พัก โรงแรมฟอร์จูน แสงจันทร์ บีช ระยอง อยู่ติดริมทะเล มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมสระว่ายน้ำที่มองเห็นทัศนียภาพของท้องฟ้าจรดทะเลสวยงาม
วันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม 2568 : ทุ่งโปรงทอง – อนุสรณ์เรือรบหลวงประแส – ชุมชนบ้านทะเลน้อย
คณะออกเดินทางไป “ทุ่งโปรงทอง” ปากน้ำประแส ถึงทุ่งโปรงทอง ปากน้ำประแส เดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติของ ทุ่งโปรงทอง แหล่งท่องเที่ยงเชิงอนุรักษ์ และศึกษาเรียนรู้ป่าชายเลนที่ใหญ่ที่สุดในระยอง
จากนั้นไปชม อนุสรณ์เรือหลวงประแส เรือหลวงเก่าที่ปลดประจำการจากสงครามเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ที่เป็นอนุสรณ์สถานที่มีประวัติศาสตร์สำคัญควรค่าแก่การรำลึกถึงราชนาวีไทย ในปัจจุบันกลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของชาวชุมชนปากน้ำประแส
เดินทางไป “บ้านทะเลน้อย” ชุมชนท่องเที่ยวบ้านทะเลน้อย ชุมชนต้นแบบการรวมกลุ่มท่องเที่ยวเชิงเกษตร และเป็นแหล่งปลูกผักกระชับแห่งเดียวในประเทศไทย และยังมีการท่องเที่ยวตามรอยวัฒนธรรมวิถีชุมชน ชวนไปชมไปชิมไปลิ้มไปลองกับ “ระยอง” ในมุมมองใหม่ที่ไม่ใช่แค่ทะเล
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ชุมชนท่องเที่ยวบ้านทะเลน้อย จากนั้นเปลี่ยนเป็นนั่งรถรางเพื่อเข้าไปชุมชน และชมพิพิธภัณฑ์ภูมิปัญญาของชุมชนที่แสดงศิลปหัตถกรรมของ คุณยายประทวน ซื่อตรง วัย 72 ปี ทำโมเดลบ้านทรงไทยและหอไอเฟลรวมถึงสถาปัตยกรรมต่างๆ โดยใช้ข้าวเปลือกและไม้ไผ่เป็นวัสดุพื้นบ้านมาทำเป็นผลงานศิลปะได้อย่างน่าทึ่ง
ต่อด้วยกานชมการสาธิตทำ “กล้วยน้ำว้าสามน้ำ” ของดีบ้านทะเลน้อย ซึ่งกล้วยน้ำว้าสามน้ำ คือ กล้วยน้ำว้าที่ปลูกในพื้นบ้านทะเลน้อย จังหวัดระยองแห่งนี้ ได้รับการดูและทั้งน้ำจืด น้ำเค็ม และน้ำกร่อย นำมาแปรรูปเพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ให้กับชุมชน
ชมวัดราชบัลลังก์ ตำนานพระเจ้าตาก กราบพระพุทธรูปองค์หวาย วัดที่มีอุโบสถเก่าแก่อายุกว่า 300 ปี พระประธานเก่าแก่ โครงสร้างหวายฉาบปูนปิดทอง ไหว้ “ศาลสมเด็จพระเจ้า ตากสินมหาราช” สถานที่นี้เคยเป็นที่ประทับ ของสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ ช่วงที่รวบรวมกำลังพล ก่อนที่จะเข้ายึดเมืองจันทบุรี
จากนั้นเดินทางไป โรงแรมฟอร์จูน แสงจันทร์ บีช ระยอง รับประทานอาหารเย็นร่วมกิจกรรมงานเลี้ยงสังสรรค์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก ททท. สำนักงานเขตระยอง โดย ได้รับเกียรติจาก คุณวัชรพล สารสอน ผอ.ททท.สำนักงานเขตระยอง เข้าร่วมงาน บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนานและอบอุ่น
คุณวัชรพล สารสอน ผอ.ททท.สำนักงานเขตระยอง กล่าวเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวจังหวัดระยอง และกินทุเรียนก่อนใคร.. “ท่านจะพลาดช่วงนี้ไปไม่ได้เพราะเป็นช่วงที่ดีที่สุดของการทานทุเรียน เงาะ มังคุดของจังหวัด ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ “ระยอง เที่ยวง่าย เที่ยวใกล้”
นอกจากนี้ระยองยังมีอาหารทะเลและที่สำคัญยังมีธรรมชาติที่สวยงาม กินทุเรียนก่อนใครไประยอง สามารถติดตามข้อมูลต่างๆ ได้ที่ เพจ สำนักงานททท.ระยอง”
วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2568 : พระเจดีย์กลางน้ำ ระยอง – วัดป่าประดู่ – ถนนยมจินดา – มีสุขฟาร์ม
เช้านี้เดินทางไปชม “พระเจดีย์กลางน้ำ” ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำระยอง ท่างกลางป่าชายเลนที่เขียวขจี จุดสำคัญในการบอกทางคนเดินเรือว่า มาถึงจังหวัดระยองแล้ว ปัจจุบันที่นี่กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองระยอง และเป็นแหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศน์ป่าชายเลน
จากนั้นไป “วัดป่าประดู่” วัดเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งแต่เดิมเคยชื่อว่า วัดป่าเลไลยก์ มีความโดดเด่นอยู่ที่พระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่ ยาว 11.95 เมตร สูง 3.60 เมตร ประดิษฐานภายในพระวิหาร ซึ่งมีพุทธลักษณะไม่เหมือนกับพระพุทธรูปองค์ อื่น ๆ ตรงที่ประทับอยู่ในท่านอนตะแคงซ้าย และแวะสักการะพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ประทับอยู่ในท่านั่งห้อยพระบาทองค์เก่าแก่ที่อยู่คู่กับวัดเพื่อเสริมสิริมงคล
เดินทางไป “ถนนยมจินดา” ย่านเมืองเก่า ถนนยมจินดา ซึ่งเป็นถนนสายแรกของเมืองระยองที่ทอดยาวขนานไปกับแม่น้ำระยอง เป็นแหล่งการค้าแห่งแรกของเมืองชายฝั่งทะเลตะวันออกในอดีต ที่นี่จึงจะมีกลิ่นอายของ ความดั้งเดิม และคลาสสิค เช็คอินจิบกาแฟและเครื่องดื่มที่ร้าน “ร้านหลานเอก” ซึ่งอยู่ในตึกเก่าอายุกว่า 100 ปี สมัยรัชกาลที่ 5 อาคารพาณิชย์หลังแรกของเมืองระยอง พร้อมเก็บภาพเป็นที่ระลึก
เดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันณ “ร้านตำนานป่า” ที่ออกแบบสร้างสรรค์ออกมาได้สวยงามอย่างลงตัวและกลมกลืนกับธรรมชาติมากๆ
เดินทางไป “มีสุขฟาร์ม” สวนท่องเที่ยวเชิงเกษตร สวนไม้กฤษณา เรียนรู้กระบวนการผลิตไม้กฤษณา ตั้งแต่ปลูกจนไปถึงการกลั่นน้ำมันกฤษณา และช้อปปิ้งสินค้าแปรรูปจากไม้กฤษณา เครื่องดื่มแนะนำคือ “กฤษณากาแฟ” ที่ใช้ส่วนผสมจากกฤษณาสกัด ซึ่งให้ความหอมเฉพาะตัว ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพ
………….…………………………….
www.indyreport.com