🔴 สปษ. ปักกิ่งเผยความสำเร็จ เปิดตลาดผลไม้ไทยในจีน

หลังจากที่สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงปักกิ่ง(สปษ.ปักกิ่ง)​ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงปักกิ่ง และ ห้างคาร์ฟูร์ สาขาซวงจิ่ง กรุงปักกิ่ง จัดกิจกรรม “เทศกาลผลไม้ไทย” ครั้งที่ 2 เนื่องจาก ห้างคาร์ฟูร์ สาขาซวงจิ่ง เป็นห้างที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดและมียอดจำหน่ายดีที่สุดในกรุงปักกิ่ง เมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา

นางสาวปทุมวดี อิ่มทั่ว อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายเกษตร) สปษ. ปักกิ่ง ได้กล่าวเปิดงานโดยเน้นย้ำว่าจีนเป็นตลาดหลักการส่งออกผลไม้เมืองร้อนของไทย ซึ่งในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ผลไม้ไทยได้รับความนิยมและมีปริมาณการส่งออกมายังจีนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แม้ในช่วง 2ปีที่ผ่านมาจะมีการระบาดของโรคโควิด-19 แต่ทว่าปริมาณการส่งออกในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้กลับสูงถึง 1.18 ล้านตัน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีผ่านมา มีอัตราเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 24 สปษ.ปักกิ่งจัดกิจกรรม “เทศกาลผลไม้ไทย” ครั้งนี้เพื่อผลักดันลองกองให้ผู้บริโภคจีนรู้จักเพิ่มเติม นอกเหนือจาก จากทุเรียน ลำไย มังคุด และ มะพร้าว

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีกิจกรรมแบบออฟไลน์และออนไลน์ ประกอบด้วย
1) กิจกรรมออฟไลน์มีการแจกผลไม้ให้ผู้มาคาร์ฟูรได้ชิมทุเรียน ลำไย มังคุด และ ลองกอง พร้อม เล่นเกมส์ และมีการแสดงมวยไทย การแสดงแกะสลักผลไม้

2) กิจกรรมไลฟ์สตรีมผ่านช่องทาง Meituan เพื่อแนะนำอาหารไทย “ต้มยำกุ้งมะพร้าวอ่อน” ลองกอง และผลไม้ชนิดอื่นๆ ประโยชน์ของผลไม้ไทย วิธีการคัดเลือกผลไม้ รวมทั้งกระบวนการควบคุมผลไม้ไทยก่อนการส่งออกมาจีน เป็นต้น

3) การจัดทำแบบสอบถามออนไลน์ เพื่อศึกษาพฤติกรรมการบริโภคและทัศนคติของผู้บริโภคคนจีนที่มีต่อผลไม้ของไทย โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามทั้งสิ้น 261 ราย
ผลการจัดกิจกรรมดังกล่าวได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าคนจีนเป็นอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลองกอง โดย สปษ. ปักกิ่ง ได้แนะนำว่าเป็นผลไม้ที่มีความอร่อยและงดงามจากภายในมีเนื้อสีขาวนวล ถึงแม้สีและลักษณะภายนอกจะไม่สวย ดูไม่งาม ผู้บริโภคที่มาร่วมงานมีความสนใจซื้ออย่างมากและสอบถามช่องทางการซื้อ เนื่องจากมีรสชาติดี หวาน อร่อย และมีความแปลกใหม่ไม่เคยรู้จักมาก่อนและคิดว่าเป็นลำไย เนื่องจากมีลักษณะคล้ายกัน


หากมีวิธีการควบคุมคุณภาพตั้งแต่สวน มีวิธีเก็บรักษาและสามารถขยายอายุได้นานขึ้นจะเป็นผลไม้ที่มีศักยภาพขยายในตลาดจีนได้ในอนาคต

………………………………………………

📍www.indyreport.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *