🔴 #เศรษฐีหนึ่งบาท #เด็กบ้านสวน

 

#เศรษฐีหนึ่งบาท #เด็กบ้านสวน

ยิ่งโตขึ้นทำไมยิ่งรู้สึกจนลง มีเงินหนึ่งร้อยบาทเดี๋ยวนี้ออกจากบ้านทีก็แทบหมดแล้ว ทั้งที่เขียมใจจะขาด

ทำให้นึกถึงเมื่อก่อน ถ้าได้เงินจากการทำไพ่ หรือรับจ้างเดินซื้อของ ซึ่งส่วนใหญ่ค่าจ้างก็คือเงินทอนนั่นแหละ ที่ผู้ใหญ่จะให้เราเป็นค่าแรง

กำเหรียญบาทที่เหรียญใหญ่ๆ มีสัญญลักษณ์ตราแผ่นดิน รู้สึกเหรียญปี 2505 นะ เราชอบเหรียญรุ่นนี้เพราะใหญ่กำเต็มไม้เต็มมือดี หัวใจก็พองโตด้วยรู้สึกว่าตัวเองรวยมั่กๆในวินาทีนั้น

ขณะที่เหล่าร้านค้าจัดของใส่ถุงตามโพยที่ได้รับมา เราก็จะมาชะเง้อดูถาดใส่ขนม ที่เค้าจะเอาขนมต่างๆเทรวมๆกันอยู่

เป็นขนมไม่มียี่ห้ออะไรหรอก มาจากประเทศจีนบ้าง โรงงานบ้านเราบ้าง คละกันไป เดี๋ยวนี้ตามร้านชำก็ยังมีให้เห็นนะ

แต่ที่สำคัญคือ มันชิ้นละเพียงหนึ่งบาท หรือ ห้าสิบสตางค์เท่านั้นเอง คิดดูสิ หนึ่งสลึง สองสลึง สามสลึง หนึ่งบาท เมื่อก่อนมันมีค่านะ ซื้ออะไรกินได้จนอิ่มเลยน่ะ

ขณะที่เดี๋ยวนี้บาทหรือห้าสิบสตางค์ ให้ขอทาน เค้าคงอยากลุกขึ้นมาเตะเราในทันทีทันใด

ขนมที่วาดไว้คงผ่านตาท่านผู้อ่านมาบ้าง ถ้าวาดไม่เหมือน ผมขอโต้ด…..ด ไว้ตรงนี้ด้วยแล้วกัน

อ้อ…พอวาดเสร็จ มากอดอกดูเพิ่งเห็นว่า ตัวเองลืมวาด ตังเม ครองแครงกรอบ กล้วยฉาบ ข้าวตู อันนี้ก็ขอโต้ด…ดอีกทีนะฮะ

ถ้าขาดอะไรที่ผมลืมเลือนไปก็บอกกล่าวมาได้นะครับ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *