🔴 ดร.รณวริทธิ์ ปรัยฉัตรกูล สมาชิกวุฒิสภา บรรยายพิเศษหัวข้อเรื่อง “เปิดมุมมองใหม่ตลาดข้าวอินทรีย์ไทย ในตลาดโลก”

19-05-63

ดร.รณวริทธิ์ ปรัยฉัตรกูล สมาชิกวุฒิสภา บรรยายพิเศษหัวข้อเรื่อง “เปิดมุมมองใหม่ตลาดข้าวอินทรีย์ไทย ในตลาดโลก” แก่นักวิชาการส่วเสริมการเกษตร สำนักงานเกษตรจังหวัดร้อยเอ็ด ตามโครงการ พัฒนาคุณภาพการผลิตและเพิ่มมูลค่าการผลิตข้าวครบวงจร ประจำปีงบประมาณ 2563 ณ ห้องประชุมใหญ่สำนักงานเกษตรจังหวัดร้อยเอ็ด

อาหารคือหนึ่งในปัจจัยสี่ วันนี้อาหารที่จะเก็บกิน ขอกินนั้นคงยาก ทุกอย่างต้องซื้อต้องขาย ผลผลิตทางการเกษตร กลายเป็นสินหลักของมนุษยชาติ ความมั่นคงทางอาหารต้องควบคู่ไปกับความมั่นคงทางการเกษตร ยิ่งในภาววิกฤติโรคระบาดเช่นนี้ สิ่งสำคัญคืออาหาร สำคัญกว่านั้นไปอีกคือ อาหารสะอาด อาหารปลอดภัย นั่นคือ อาหารอินทรีย์ ในที่นี้ขอกล่าวถึง ข้าวอินทรีย์ การทำตลาดข้าวอินทรีย์คือเรากำลังทำ niche market ด้วยข้าวอินทรีย์เป็นตลาดเฉพาะ ต้องอิงการตรวจประเมินมาตรฐานอินทรีย์ทั้งระบบกล่าวคือ แปลงปลูก ทั้งกระบวนการแปรรูป กระบวนการบรรจุ ขนส่ง และจำหน่าย อีกทั้งมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรม (GMP/HACCP) อีกด้วย ข้าวอินทรีย์ที่ทำได้ครบมาตรฐานตามนี้จึงเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างยิ่ง ถึงขั้นสินค้าขาดตลาด ผลิตไม่ทัน

แต่กระแสในสังคมกลับกลายเป็นข้าวล้นตลาด โดยเฉพาะข้าวอินทรีย์ เมื่อมองให้ลึกแล้วจะเห็นว่าการส่งเสริมของภาครัฐนั้น ยังเกาไม่ถูกที่คัน และยังจะดันไม่ถูกช่อง การกำหนดให้เกษตรกรเป็นทั้งผู้ผลิต ผู้แปรรูป และผู้ส่งออกเบ็ดเสร็จในตัวคนเดียว โดยอ้างคำว่าครบวงจร นั้น มันเป็นไปไม่ได้ ในความเป็นจริงกระบวนการเหล่านี้ต้องแยกกันทำแล้วผสานให้เป็นเนื้อเดียวกันระหว่าง เกษตรกร โรงสีข้าว และผู้ค้าข้าว มือคนเรามีห้านิ้วแต่ละนิ้วยาวไม่เท่ากัน ทำหน้าที่ต่างกัน แต่สำคัญเท่ากัน เกษตรกรต้องเป็น Smart Farmer จึงจะเป็นจริงได้ ไม่ใช่ Supper Farmer ซึ่งเป็นเพียงภาพในจินตนาการเท่านั้น

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ