🔴 ชาติใดไร้รักสมัครสมาน จะทำการสิ่งใดก็ไร้ผล แม้ชาติย่อยยับอับจน บุคคลจะสุขอยู่อย่างไร

🚩ชาติใดไร้รักสมัครสมาน จะทำการสิ่งใดก็ไร้ผล แม้ชาติย่อยยับอับจน บุคคลจะสุขอยู่อย่างไร

วันนี้พอมีเวลาว่างบ้างเล็กน้อย จึงพอได้อ่านหนังสือหนังหาที่ชอบซื้อมาจัดเรียงไว้ มากมายก่ายกอง คำถามคือทำไม่ไม่อ่าน E-book หรือสาระใดๆจากสื่อ IT ขอบอกตามตรงว่า “เบื่อ” เบื่อโฆษณาบ้าๆบอๆบนโซเชียล ที่ไม่มีมาตรฐานทางจริยธรรม ขายยาบำรุงกษัย(บำรุงกาม) ทั้งของชาย ของหญิงพร้อมภาพประกอบแบบดูแล้ว “บัดสี” สื่อเหล่านี้เด็กก็เข้าถึงได้ และรู้เห็นเต็มตา อย่าโทษเด็กวันนี้เลยว่าแก่แดด ก็ท่านยัดเยียดอะไรเข้าสมองเด็ก! คิดเองนะ

พอๆๆๆ วันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะเขียนเรื่องนี้ ผมตั้งใจเขียนเรื่อง น้ำใจรักชาติ รักแผ่นดิน ของมหาบุรุษสูงศักดิ์ในอดีตท่านหนึ่งที่เป็นได้แม้แต่ ปฐมบรมกษัตริย์ของแผ่นดินสยาม นามว่า “ขุนผาเมือง” เจ้าเมืองราด ต่อมาเรียกเมืองลุ่ม ต่อมาเรียกเมืองหล่ม (หล่มเก่า เพชรบูรณ์) มีสหายร่วมรบคู่ใจคือ ขุนบานเมือง และขุนบางกลางหาว (เป็นญาติกันด้วย) ครั้งนั้นเมืองสุโขทัย อันเป็นเมืองไม่ใหญ่โตนัก มีสุโขทัย ศรีสัชนาลัย และพิษณุโลก รวมอยู่เท่านั้น ปกครองโดย “ขอม” จากเมืองละโว้ นามว่า ขอมสะบาดโขลญลำพง อันเขื่อมโยงยึดมั่นกับอาณาจักร กัมพูชา ต่อมาชักจะใช้อำนาจบาดใหญ่รุกรานไปทั่ว

สามสหายศึกจึงกำราบจนราบคาบ ผู้อาวุโสสุดและมีผลงานศึกเป็นที่ประจักษ์คือ “ขุนผาเมือง” สหายศึกทั้งสองจึงขอยกเมืองสุโขทัยให้ขึ้นครองราชเป็นกษัตริย์ และสถานปณาสุโขทัยเป็นอาณาจักร แห่งแรกของสยามอย่างเป็นทางการ ซึ่งพระบิดาคือ ขุนศรีนาวนำถุม เป็นผู้ดำเนินการสถาปณา ขุนผาเมือง มีชื่อเสียงขจรขจาย อาณาจักรกัมพูชา โดยนครธม (ศรียโสธรปุระนคร) กระวีกระวาด อัญเชิญของสำคัญมาถวาย เพื่อเจริญทางพระราชไมตรีไว้ก่อน ได้แก่ 1) พระแสงขันธ์ชัยศรี 2) พระนามศรีทรบดินอิทราทิตย์ 3) ตำแหน่งกมรเตงอัญผาเมือง และ 4) พระธิดา นามว่า พระนางสุขรเทวี “ขุนผาเมือ” รับไว้ทั้งหมด เพื่อมิให้เสียพระราชไมตรี ด้วยเราเป็นอาณาจักรใหม่ยังต้องพึ่งพาใครต่อใครอีกมากและต้องใช้เวลาสร้างความเป็นปึกแผ่นอีกนานพอควร

แต่…. หากทำตามอาณาจักรกัมพูชาทั้งหมดเราก็เป็นเมืองขึ้นเขาสิครับ และหากไม่รับก็เท่ากับประกาศศึกตัดไมตรี บ้านเมืองคงลุกเป็นไฟ จะหาสุขได้ไฉน ไพร่ฟ้า ประชาชน สมณ ชี พราหมณ์ ล้วนแต่จะเดือดร้อน ได้ยากแสนเข็ญ มหาบุรุษย่อมรู้กลืนกล้ำ ไม่นำพาความสุขส่วนตนเป็นที่ตั้ง ขุนผาเมืองจึงรับไว้ พอถึงวันสถาปนา ขุนผาเมืองยกตำแต่งกษัตริย์ พร้อมพระนาม และพระแสงขันธ์ชัยศรี ให้ขุนบางกลางหาว ที่เป็นญาติและสหายศึก รับไว้เป็นของตนเพียงพระธิดาสุขรเทวี และตำแหน่งกมรเตงอัญผาเมือง เท่านั้น

ทางนครธม หรือ ศรียโสธรปุระ งงเป็นไก่ตาแตก หลายท่านก็คงจะงวยงงสงสัยเหมือนกัน ผมจะเฉลยให้ครับ นี่เป็นการเสียสละครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เป็นความฉลาดทางรัฐศาสตร์ และพิชัยยุทธที่ขงเบ้ง จิวยี่ และ สุมาอี้ ต้องกราบเลยทีเดียว หากขุนผาเมือง ชงเองกินเอง ทุกอย่างจบ แต่ไทยเป็นทาส แน่นอน ไม่รับ ก็ต้องรบ เรากำลังรบน้อยกว่าแพ้เห็นๆ เพราะเรื่องใหญ่คือพระธิดาสุขรเทวี ขุนผาเมืองเป็นกษัตริย นางก็เป็นราชินี บุตรแห่งนางก็เป็นราชโอรส/ราชธิดาซึ่งเป็นลูกครึ่ง ไทย-กัมพูชา และถ้าทางนครธมส่งพระธิดา/พระโอรสมาอีก แต่งอีก โอรส/ธิดาออกมาก็เป็น ไทย 25% กัมพูชา 75% ถึงรุ่นที่3 กัมพูชา 100% และระหว่างทางนี้หากฝ่ายไทยลุกฮือขึ้นต่อต้าน เสียเลือดเนื้ออีกมากมาย ที่สำคัญจะกลายเป็น ไทยฆ่าไทย ให้กัมพูชาดู สละซะทุกอย่างจะจบ ไม่ผิดกติกาเพราะที่ ที่นครธมส่งมาเรารับไว้หมด! รับทุกอย่าง แต่ แบ่งออกตามความเหมาะสม งานสถาปนาก็เสร็จสมบูรณ์

เราได้ปฐมบรมกษัตริย์ ทรงพระนามว่าพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ มีพระแสงขันขัยศรีเป็นเครื่องราชูปโภค ก่อนกลับเพชรบูรณ์ “พ่อขุนผาเมือง” ยกนางเสือง พระขนิษฐา(น้องสาว) ให้เป็นพระชายา ของ พ่อขุนศรีฯ ซึ่งพระองค์ท่านก็ทรงรับไว้ด้วยความปิติยิ่ง (รู้เกมส์กันแล้วว่าต้องกันทางกัมพูชาออกไป) ฝ่ายนครธมก็ได้แต่อึ้ง! รู้ไม่ทันว่ารูปการณ์จะออกมาแนวนี้ ซึ่งต่อมาพระราชโอรสผู้เกรียงไกรของ พ่อขุนศรีฯ กับพระนางเสือง ก็คือ พ่อขุนรามคำแหงมหาราชนั่นเอง ฝ่ายพ่อขุนบานเมือง ก็เดินทางกลับด้วยความสบายใจ เมื่อไทยเป็นไทย ไทยไม่รุกรานไทย ไทยก็ยั่งยืน

มาถึงวันนี้ เมื่อสักครู่นี้ ผมได้เห็นลูกหลานไทย ผู้ไม่รักการอ่าน อ่อนด้อยด้วยการศึกษาเล่าเรียน ด้อยด้วยภูมิปัญญา ออกมาผรุสวาท บ้านเมืองตนเองแล้วเศร้าใจ นิยมหลงไหลประชาธิปไตยโง่ๆ ที่ไร้กฏระเบียบอย่างฝรั่งบางคนบางจำพวกที่ เขาให้ใส่หน้ากากอนามัยก็บอกว่าละเมิดสิทธิ เขาจำกัดเวลาออกนอกเคหะสถาน ให้หยุดเชื้อเพื่อชาติก็ว่าริดรอนสิทธิ แล้วไง? แห่กันติดเชื้อ แห่กันตายขุดหลุมฝังหมู่! ก็ไปสิ! ชื่นชมเขานักก็ไปอยู่กะเขาสิ ไปตายหมู่ ฝังหมู่กะเขาโน่น บ้านเมืองจะได้สงบเสียที

เอาชนะโควิด ให้ได้เด็ดขาดก่อน ฟื้นฟูบ้านเมืองให้กลับมารุ่งเรืองก่อน ค่อยมาเล่นการเมืองกันต่อ จะคิดยังไง จะเอายังไง ก็ไม่ว่ากัน บ้านเมืองเรา เรามีสิทธิ รู้จักอดกลั้น รู้จักเสียสละ รู้จักใช้ปัญญา กันบ้างครับ!!!

 

📍www.indyreport.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *