🔴 #ว่าว #เด็กบ้านสวน


เมื่อก่อนพอลมร้อนพัดผ่านช่วงปลายมีนาคม เด็กๆต่างเร่งวันคืนให้ปิดเทอม เพื่อที่จะได้มาใช้เวลาค่อนวันวิ่งว่าวกันที่ถนนตัดใหม่ที่เคยเล่าไปแล้ว

เรามักทำว่าวเล่นกันเอง ตอนแรกก็ไปหาไม้ไผ่ตามกอไผ่สีสุก เพราะมันตรงและเหนียวดี

หลังจากนั้นก็ใช้มีดจักตอกเหลาจนเกลี้ยงเกลา ส่วนอกจะสั้นและใหญ่กว่านิดหน่อย ส่วนปีกจะเหลาให้ปลายบางอ่อนเอามาดัดให้โค้งสวย

แล้วจึงใช้เชือกป่านว่าวผูกเป็นโครงว่าว เตรียมทาแป้งเปียกติดกระดาษ

ถ้าไม่มีกระดาษว่าวสวยๆเราก็ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์เอาเลย ติดด้วยกาวหรือแป้งเปียกขวดเขียวๆมอๆ ขวดละบาทนั่นแหละ

แล้วก็จะพับกระดาษเงินจากซองบุหรี่ของพ่อมาพับทบๆแล้วตัดเป็นรูปดาวสวยงาม เอาติดตัวว่าวในตำแหน่งที่ใช้ผูกซุงเชือกว่าว

เด็กผู้ชายชอบว่าวอีลุ้ม คือมีพู่ที่ปีก แต่ไม่มีหาง เพราะเค้าว่ามันเป็นตัวผู้ ถ้าว่าวปักเป้ามีหางจะเป็นตัวเมีย แต่ถ้าวิ่งแล้วว่าวไม่ขึ้นซะที ก็ต้องจำใจติดหางเป็นว่าวปักเป้าไป หางถ้าไม่มีกระดาษก็ใช้ชายผ้าขี้ริ้วหรือชายผ้าขาวม้าเก่านั่นแหละ

พอว่าวขึ้นแล้วก็ไม่มีไรทำนอกจากยืนดูว่าวสีสดสวยตัดกับฉากฟ้ากว้างสีน้ำเงินครามและหมู่เมฆปุยใหญ่ๆมันสวยจริงๆ นานๆทีก็จะแอ๊คท่า กระตุกป่านให้ว่าวโฉบซ้ายขวาบ้าง อยู่อย่างนั้นจนเย็นมืดค่ำ แม่มาตามนั่นแหละถึงเอาว่าวลง กลับบ้าน

แต่ที่สนุกที่สุดในการเล่นว่าวของเราก็คือ ตอนที่ว่าวขาดลอยนั่นแหละ วิ่งตามว่าวไปตามสวนชาวบ้านเขา ทั้งรก ทั้งกลัวหมา ตื่นเต้นเหมือนไล่จับคนร้ายทายกันต่างๆนานาว่าตกตรงโน้น ลมพัดไปทางนี้ สนุกดี บางทีว่าวติดอยู่บนยอดยางนาสูงลิบ เอาลงมาไม่ได้ ก็ต้องกลับไปเริ่มทำใหม่ตั้งแต่แรก

เดี๋ยวนี้คงหาเด็กๆที่จะทำว่าวเล่นเองยาก ส่วนใหญ่จะซื้อ และว่าวที่เล่นก็มักเป็นว่าวรูปแบบของฝรั่ง และเด็กเดี๋ยวนี้ก็คงเลือกที่ก้มหน้าเล่นมือถือมากกว่าอีกทั้งที่วิ่งว่าวเดี๋ยวนี้แทบไม่เหลือให้เด็กเล่น ถ้าไม่ติดตึกสูงๆใหญ่ๆ ก็อันตรายจากสายไฟฟ้ารกเต็มเมือง ที่ไม่ใช่กลืนกินธรรมชาติเรือกสวนไป แต่มันยังกัดกินไปถึงวิถีชีวิตการเล่นของเด็กยุคเราไปอีกด้วย

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *