‘สมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน” จับมือ “ชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว” เปิดโครงการสร้างสรรค์ “ปั่นปันรัก พักเมืองรอง” สนามแรกจังหวัดสมุทรสงคราม มีนักปั่นไทยและต่างชาติเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองของประเทศไทย
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา สมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน และ ชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว ได้ร่วมกันเปิดโครงการ “ปั่นปันรัก พักเมืองรอง” เป็นสนามแรก โดย มีนายธีระ เหลียวสุธีร์ นายอำเภอเมืองสมุทรสงครามจังหวัดสมุทรสงคราม นางวาสนา สุขเกษม รองผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม ,นายชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน ,นายพูลผล แพทอง ประธานชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว ตลอดจนสื่อมวลชนและตัวแทนภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ให้ความสนใจเข้าร่วมในพิธีเปิดงานเป็นจำนวนมาก รวมถึงนักปั่นจากทั่วประเทศที่สมัครเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ กว่า 300 คน ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักและสนุกสนาน ณ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม
นางวาสนา สุขเกษม รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงครามกล่าวว่า “การจัดงานครั้งนี้สมุทรสงครามถือเป็นเมืองรองที่เป็นที่แรกและทาง ททท. เองก็ทำพื้นที่เป็นเส้นทางจักรยานที่เกี่ยวกับเส้นทางท่องเที่ยว ซึ่งมี 5 เส้นทาง สามารถรับข้อมูลได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุทรสงคราม เส้นทางแต่ละเส้นทางของพื้นเป็นเส้นทางที่สวยงามและน่าปั่นจักรยานมาก เพราะว่ามีเส้นทางจักยานอยู่รอบตัวเมือง และนอกจากจะปั่นไปแล้วเราก็มีแหล่งท่องเที่ยวไหว้พระ แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่อยู่ตลอดเส้นทาง เส้นทางก็ไม่ไกลมากระยะทางตั้งแต่ 10 กิโลเมตร ไปจนถึง 60 กิโลเมตร ซึ่งจะมีแหล่งท่องเที่ยวตลอดเส้นทาง
สำหรับจุดไฮไลท์ที่น่าสนใจและเป็น unseen ก็จะมี “โบสถ์ปรกโพธิ์” ที่คลุมด้วยต้นโพธิ์ ต้นไทร ต้นไกร ต้นกาง ที่วัดค่ายบางกุ้ง เพราะมีเรื่องราวที่ในสมัยก่อนนี้เคยเป็นค่ายของพระเจ้าตากสิน นอกจากจุดไฮไลท์แล้วเราก็ยังมีตลาดน้ำที่สำคัญในพื้นที่ ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์รักษาวิถีชุมชนและรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย ก็คือ “ตลาดน้ำท่าคา” ที่ชาวบ้านพายเรือมาค้าขาย ในวันเสาร์-อาทิตย์ มีนักท่องเที่ยวและนักปั่นจักรยานมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก มีอาหารอร่อยมากมายหลากหลายและของซื้อของฝากของที่ระลึกถูกกว่าที่อื่นค่ะ” นางวาสนา กล่าว
ด้าน นายชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการร่วมกันจัดงานครั้งนี้ว่า “เป็นการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองของไทยซึ่งมีอยู่ 55 จังหวัด คือที่ผ่านมาเราทราบกันดีว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ผ่านวิกฤตมาได้ ก็ต้องอาศัยภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นหลัก เพราะว่าในช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยเศรษฐกิจโลกไม่ค่อยสดใสนัก ก็ได้อาศัยการท่องเที่ยวช่วยพยุงให้รอดมาได้ และเชื่อว่าภาคการท่องเที่ยวก็มีบทบาทสำคัญต่อไปอย่างยาวนาน ที่ผ่านมาการท่องเที่ยวนอกจากจะมี “ไทยเที่ยวไทยแล้ว” ก็ยังต้องอาศัยชาวต่างชาติที่ต้องมาท่องเที่ยวอีกด้วย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนก็ถือว่าเป็นหัวใจหลัก ปีละ 10 ล้านคน และในปี 62 น่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 61 หรืออาจจะทะลุไปด้วยซ้ำ ถ้าเราสามารถทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนนอกจากจะมาเที่ยวกรุงเทพ เชียงใหม่ ภูเก็ต ที่เป็นเมืองหลักแล้ว ถ้าทำให้เขารู้จักเมืองรอง ผมเชื่อว่าการกระจายตัวก็จะมีประโยชน์มากขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวจีนได้รู้จักสมุทรสงครามอย่างวันนี้ หรือว่าทริปหน้าจะไปราชบุรีหรือภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ข่าวสารก็จะได้ถูกส่งกลับไปที่เมืองจีน แล้วทำให้คนจีนเวลาที่เขามารับทราบข้อมูล เขาก็มีความต้องการอยากจะไปกระจายการท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งอันนี้ประโยชน์ก็จะตกกับประเทศไทยครับ” นายชัยวัฒน์ กล่าว
ขณะที่ นายพูลผล แพทอง ประธานชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว ได้กล่าวถึงกิจกรรมต่างๆ ในครั้งนี้และแผนการจัดงานในสนามต่อไปว่า “สนามสมุทรสงครามนี้เป็นสนามแรก ซึ่งวัตถุประสงค์หลักคือต้องการให้นักท่องเที่ยวมีสุขภาพแข็งแรง ได้เที่ยวชมได้ถ่ายรูปกับแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามในเมืองรองทั้ง 55 จังหวัดในประเทศไทย
สำหรับกิจกรรมที่ “ชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว” ได้ร่วมครั้งนี้ในเรื่องของ “นักปั่นขึ้นกล้อง” นั้น ซึ่งกรรมการของชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยวทุกคนเป็นกรรมการตัดสิน สำหรับนักปั่นขึ้นกล้องประจำปีจะมีเงินรางวัลมูลค่าถึง 100,000 บาท แล้วในแต่ละสนามก็จะมีรางวัลประจำสนามด้วยครับ สนามแรกที่จังหวัดสมุทรสงครามวันที่ 31 มีนาคมนี้ สนามที่สองถัดไปสนุกสนานแน่นอน วันที่ 21 เมษายน นี้ ที่จังหวัดราชบุรีครับ”
ด้าน mr.sunguangyong ผู้สื่อข่าว people daily China และกรรมการสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน เผยว่า “ตอนนี้คนจีนที่มาเที่ยวประเทศไทยไม่เพียงแต่จะมาเป็นกรุ๊ปทัวร์เท่านั้น แต่ยังมีประมาณครึ่งหนึ่งหรือมากกว่าครึ่งที่มากันเอง และการที่มากันเองอาจจะหากิจกรรมต่างๆ ไม่ใช่ไปแค่เที่ยวอย่างเดียว อาจจะไปปั่นจักรยานหรือไปทำกิจกรรมอื่นด้วย อย่างที่สมุทรสงครามที่นี่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยว เช่น อัมพวา ตลาดรถไฟ หรือ ตลาดร่มหุบ มีอะไรหลายๆ อย่างที่คนจีนเขาสนใจ ดังนั้นพอเขารู้จักว่าที่นี่มีอะไรหลายๆ อย่าง ก็ชวนกันมาเที่ยวเมืองรองของประเทศไทยซึ่งมีอยู่ 55 เมือง ก็จะเป็นสิ่งดึงดูดให้คนจีนสนใจมาเที่ยวเมืองรองมาเที่ยวชุมชนของประเทศไทยด้วย ก็จะได้สัมผัสบรรยากาศของประเทศไทยและก็อยากจะประชาสัมพันธ์ให้คนจีนรู้จักมากขึ้น เพราะตอนแรกคนจีนอาจจะรู้จักแค่เมืองหลักๆ อย่างเช่น กรุงเทพ ภูเก็ต เชียงใหม่ แต่เมืองรองอาจจะยังไม่รู้จักมากพอเพราะข้อมูลยังน้อย ถ้าประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้คนจีนรู้จักมากขึ้นนักท่องเที่ยวก็จะกระจายไปถึงเมืองรองของประเทศไทยครับ”
สำหรับเส้นทางปั่นจักรยานตามโครงการ “ปั่นปันรัก พักเมืองรอง” ของจังหวัดสมุทรสงคราม นี้ มีระยะเส้นทางรวม 34 กิโลเมตร โดยจุดเริ่มต้นขบวนที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรสงคราม มุ่งหน้าสู่วัดอัมพวันเจติยาราม ตำบลอัมพวา เป็นจุดที่ 2 ซึ่งนักปั่นจักรยาน ได้เข้าสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ชมจิตรกรรมฝาหนังที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงโปรดเกล้าให้เขียนขึ้นตามแบบศิลปสมัยรัตนโกสินทร์ ก่อนจะร่วมกันถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึก จากนั้นขบวนจักรยานมุ่งหน้าสู่จุดที่ 3 คือ
ตลาดน้ำท่าคา ที่ยังคงความเป็นตลาดน้ำธรรมชาติ โดยพ่อค้า แม่ค้าจะพายเรือนำผลผลิตจากสวนซึ่งมีทั้งผลไม้ และพืชผักตลอดจนขนมและอาหารพื้นที่ท้องถิ่น มาขายให้นักท่องเที่ยวทั่วไปในราคาย่อมเยาว์ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินข้ามสะพานสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านได้ทั้งสองฝั่งคลอง สร้างความประทับใจและรอยยิ้มให้นักปั่นจักรยานอย่างถ้วนหน้า
จากนั้น ขบวนคาราวานปั่นจักรยานได้เดินทางกลับมาที่จุดปล่อยตัวครั้งแรก เพื่อร่วมกันรับประทานอาหารกลางวัน และร่วมกิจกรรมจับรางวัลผู้โชคดีรับของที่ระลึกต่างๆ และมอบเงินสนับสนุนจากน้ำใจของนักปั่นทุกคนสู่ 3 องค์กรในพื้นที่ ได้แก่ 1. บ้านเด็กและครอบครัว จ.สมุทรสงคราม 2 .โรงเรียนปราโมทย์ พิศสะอาดราษฎร์บำรุง และ 3. วิสาหกิจชุมชนบ้านริมคลองโฮมสเตย์ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการประกาศรายชื่อนักปั่นขึ้นกล้องชายและหญิง ประจำสนามแรกเพื่อรับของที่ระลึกจากชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว
สำหรับโครงการ “ปั่นปันรักพักเมืองรอง” ได้รับการสนับสนุนจาก Amazingไทยเท่ และ วิริยะประกันภัย มีจุดประสงค์เพื่อร่วมสนองนโยบายการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในการประชาสัมพันธ์เมืองรอง เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนได้มาสัมผัสแหล่งท่องเที่ยว วิถีชีวิตชุมชน ประเพณีและวัฒนธรรมของประเทศไทยเพิ่มขึ้น พร้อมเชิญชวนผู้ที่ชื่นชอบการปั่นจักรยานได้ปั่นท่องเที่ยวเมืองรองในประเทศไทยเพื่อเก็บสถิติเที่ยวเมืองรอง โดยการปั่นให้ได้มากที่สุด ถึง 55 จังหวัด ซึ่งจะนำร่องปี 2019 จำนวน 12 จังหวัดเมืองรอง ใครลงทะเบียนและมีประสบการณ์ปั่นได้มากที่สุด จะมีรางวัลให้ 100,000 บาท โดยจะทำการสุ่มจับฉลากในจังหวัดสุดท้ายเดือนกุมภาพันธ์ 2563
ทั้งนี้ นักปั่นจักรยานทั่วประเทศ สามารถติดตามสมัครร่วมโครงการ “ปั่นปันรัก พักเมืองรอง” สนามที่สอง จังหวัดราชบุรี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และเปิดกิจกรรม ในวันที่ 21 เมษายน 2562 นี้ นักปั่นท่านใดที่สนใจ ให้ติดตามและสมัครได้ที่ เพจ FB : ปั่นปันรัก พักเมืองรอง เพจเดียวเท่านั้น https://www.facebook.com/ปั่นปันรัก-พักเมืองรอง-250508025829734/
www.indyreport.com