วันที่ 18 มิถุนายน 2567 เวลา 17.00 น. ณ สนามหญ้าหน้าดึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
นายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงรับรองเพื่อแสดงความยินดีกับจุดเริ่มต้นของกฎหมายสมรสเท่าเทียม และมอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในงาน เนื่องในโอกาสที่ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่..) พ.ศ. “: หรือร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ผ่านวุฒิสภา พร้อมด้วยนายวราวุธ ศิลปะอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กล่าวแสดงความยินดี พร้อมคณะเอกอัครราชทูตฯ รองนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้บริหารกระทรวงพม. และหน่วยงานภาครัฐ ที่เกี่ยวข้อง ภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคม และเอกชนด้านความหลากหลายทางเพศ และสื่อมวลชนเข้าร่วมงานดังกล่าวฯ
นายวราวุธ กล่าวว่า ในนามของรัฐบาลไทย ขอชื่นชมความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ที่ได้ร่วมกันผลักดันจนกระทั่งผ่านขั้นตอนต่าง ๆ และในวันนี้ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมวุฒิสภาแล้ว ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสิทธิมนุษยชน ที่มนุษย์ทุกคนทุกเพศทุกวัยและทุกสถานะ มีสิทธิที่ได้รับการคุ้มครองให้มีความเสมอภาคอย่างเท่าเทียมกัน ตลอดจนรัฐบาลไทยซึ่งได้นำเสนอความสำเร็จด้านความเท่าเทียมมาอย่างต่อเนื่อง ประชาสัมพันธ์ถึงภาพลักษณ์ ประเทศไทย Pride Friendly Destination จุดหมายปลายทางที่เป็นมิตรในทุกด้าน สะท้อนให้เห็นถึงการเปิดกว้างโอบรับถึงความแตกต่างหลากหลายทางเพศของสังคมไทย
การผ่านร่างกฎหมายนี้ จะทำให้ไทยเป็นแห่งที่ 3 ในเอเชีย (ถัดจากไต้หวันและเนปาล) และเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียม ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย นอกจากจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศสามารถสมรสกันได้ตามกฎหมายแล้ว คู่สมรสยังมีสิทธิและประโยชน์ครอบคลุมทุกมิติ เช่น สิทธิจัดการทรัพย์สินของคู่สมรส สิทธิเป็นผู้จัดการแทนในทางอาญา เช่นเดียวกับสามี-ภรรยา สิทธิรับมรดกหากอีกฝ่ายเสียชีวิต สิทธิรับบุตรบุญธรรม สิทธิการลงนามยินยอมให้รักษาพยาบาลอีกฝ่าย สิทธิจัดการศพ สิทธิได้รับประโยชน์และสวัสดิการจากรัฐในฐานะคู่สมรส เช่น สิทธิประกันสังคม สิทธิเบิกจ่ายค่า รักษาพยาบาล รวมถึงสิทธิของคู่สมรสที่มีสิทธิในการทำธุรกรรมต่างๆ โดยเฉพาะการเปิดโอกาสในการกู้ร่วมเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ ในฐานะคู่สมรส
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เขื่อมั่นว่า กฎหมายสมรสเท่าเทียมนอกจากจะสร้างความสุขให้กับทุกคู่ที่มีความรักต่อกันแล้ว ยังเป็นการประกาศให้ กับทั่วโลกได้รู้ว่าประเทศไทย เป็นสวรรค์เเห่งความเท่าเทียม และนี่คืออีกหนึ่งสิ่งที่มาเติมเต็มคำว่า Amazing Thailand , Paradise for All ที่จะเป็นหมุดหมายใหม่ของกลุ่ม LGBTQIAN+ จากทั่วโลกอย่างแท้จริง
#สมรสเท่าเทียม #ความเท่าเทียมทางเพศ #PRIDENATION #AmazingThaolandLoveWins #ParadiseforAll
…………….….……………………….….……
www.indyreport.com