เจโทร ประเทศไทย จัดทำโครงการสร้างดีมานด์ใหม่สำหรับหอยโฮตาเตะในประเทศไทย เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับเชฟในร้านอาหารไทย และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอาหารไทย โดยมอบหมายให้ บริษัท ไดโช (ประเทศไทย) จำกัด ทำการประชาชาสัมพันธ์โครงการดังกล่าวในงาน DAISHO THAILAND BUSINESS MATCHING 2566 เชิญเจ้าของร้านอาหาร ร้านค้า เจ้าของกิจการ ผู้ที่สนใจในวัตถุดิบนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นกว่า 150 บริษัท เข้าร่วมงาน พร้อมพบปะกับผู้ประกอบการจากประเทศญี่ปุ่นกว่า 30 บริษัท เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์รวมถึงโอกาสทางธุรกิจ
ครั้งนี้ ทางเจโทร ได้นำหอยโฮตาเตะมาออกบูธโชว์เพื่อประชาสัมพันธ์ หอยโฮตาเตะให้กับคนไทย ซึ่งหอยโฮตาเตะถือเป็นหนึ่งในวัตถุดิบชั้นยอดและได้รับความนิยมมากที่สุดของประเทศญี่ปุ่น สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ตัวหอยจะมีรสชาติที่ออกหวาน และ มีความหอมของกลิ่นทะเลมากกว่าหอยเชลล์จากที่อื่น ๆ เวลาสุกจะมีความนุ่มเด้งมาก ๆ โดยที่เนื้อจะไม่เหนียว สามารถนำมาดัดแปลงเป็นวัตถุดิบหลักในการปรุงอาหารได้หลายสัญชาติ อาหารไทยก็เช่นกัน
ผู้ที่เข้าร่วมงานจะได้ทำความรู้จักวัตถุดิบเกี่ยวกับอาหารมากมายจากประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น อาหารทะเล, เนื้อสัตว์, ผัก, ผลไม้, ขนม หรือเครื่องปรุงรสต่างๆ โดยเฉพาะหอยเชลญี่ปุ่น หอยโฮตาเตะ ที่โครงการได้เชิญเชฟแอ้ม นารี เชฟชื่อดัง มารังสรรค์เมนูอาหารไทยให้ชิมกันในงานถึง 2 เมนู ได้แก่ ต้มข่าหอยโฮตาเตะ และพล่าหอยโฮตาเตะกระทงทอง
โดยได้รับการการันตีจากชื่อเชฟดังจาก คุณศรัณย์ อัศวานุชิต Master Chef Thailand และ ภาวิตา แซ่เจ้า The Next Iron Chef ถึงรสชาติรสชาติความอร่อยลงตัว ญี่ปุ่นมีวัตถุดิบที่ดีอยู่แล้วโดยเฉพาะหอยโฮตาเตะ จะมีรสชาติที่มีเอกลักษณ์ มีความหวาน กลมกล่อมอยู่ในตัว ตัวใหญ่ ไม่อมน้ำ เวลานำมาปรุง สามารถเข้ากันได้ดีกับอาหารไทย ไม่ว่าเป็นต้ม ผัด แกงหรือทอด ก็จะซึมซับเข้าไปกับเครื่องปรุงของไทยได้ดี อยากให้เชฟไทย ร้านอาหารไทย ได้มาลิ้มลองกัน เชื่อว่าจะทำให้รู้ว่าอาหารไทยว้าวแน่นอน
นายคุโรดะ จุน ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่นประจำประเทศไทย (เจโทร กรุงเทพฯ) กล่าวว่า หอยเชลล์อย่างหอยโฮตาเตะ มียอดขายในประเทศไทยเพิ่มขึ้นทุกปีและก็คิดว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต่อไปในอนาคต เมื่อถามคนไทย คนไทยส่วนใหญ่จะรับประทานหอยเชลล์ดิบในฐานะอาหารญี่ปุ่น แต่ในความเป็นจริงแล้ว หอยเชลล์นั้นไม่ว่าจะรับประทานแบบดิบหรือแบบสุขก็อร่อยไม่ต่างกัน ดังนั้น นอกจากอาหารญี่ปุ่นแล้วก็ยังสามารถนำไปใช้กับอาหารชาติอื่นๆ ได้ดี โดยเฉพาะอาหารไทย จึงอยากเผยแพร่เสน่ห์ของหอยเชลล์ในแง่มุมใหม่ๆ ให้คนไทยได้รู้จักผ่านงานในครั้งนี้ และจากการที่ร้านอาหารไทยนำหอยเชลล์ญี่ปุ่นไปรังสรรค์เป็นเมนูใหม่ๆ ผมหวังว่าปริมาณการนำเข้าหอยเชลล์ จะทำให้ยอดขายของร้านอาหารไทยจะเพิ่มมากขึ้น
.………………………………………………
📍www.indyreport.com