🔴 “โอมาน”ป่วนตลาดส่งออกยิปซัมสมาคมสินแร่ฯร้องรัฐบาลช่วยด่วน

(จากซ้ายไปขวา) กรรมการสมาคมสินแร่และวัสดุก่อสร้าง น.ส.พัชรินทร์ เกียรติผดุงกุล น.ส.โชติกา โชติกานนท์​ ดร.วิจักษ์ พงษ์เภตรา​ นายพรสิทธิ์ ด่านวนิช

ทึ่ปรึกษาสมาคมสินแร่ฯเสนอ 4 มาตรการให้รัฐบาล​ ”เศรษฐา” เร่งปลดล็อคปัญหาธุรกิจแร่ยิปซัมส่งออกถดถอย  เผยถูก 4 บริษัทรายใหญ่โอมานรวมหัวตั้งบริษัทกลางกดราคาแย่งตลาดลูกค้าไทย   แนะแก้ไขระเบียบออกประทานบัตรเร็วขึ้นและการใช้ทรัพยากรแร่ในพื้นที่ส.ป.ก.

         นางสาวโชติกา โชติกานนท์ ที่ปรึกษาสมาคมสินแร่และวัสดุก่อสร้างเปิดเผยว่า ธุรกิจแร่ยิปซัมของผู้ประกอบการไทยกำลังส่อเค้าจะเกิดวิกฤติในด้านการส่งออกไปขายตลาดต่างประเทศ   เนื่องจากด้านประเทศโอมาน ซึ่งเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ใช้กลยุทธ์การตลาดกดราคาแร่ต่ำเพื่อแย่งลูกค้าจากผู้ส่งออกไทย

         ทั้่งนี้ได้รับข้อมูลยืนยันว่า 4 บริษัทรายใหญ่ของโอมาน ประกอบด้วย Global Mining, Kunooz, Dhofar Mining, AL Jood Natural Resources รวมกำลังการผลิต 10 ล้านตัน ได้จับมือกันตั้่งบริษัทกลางชื่อ บริษัท Salalah Resources Gypsum Co.L.L.C จดทะเบียนกระทรวงพาณิชย์  กำหนดราคาแร่ยิปซัมโดยรักษาระดับ FOB ขั้นต่ำ 11 USD/MT ส่งออกให้ผู้ผลิตปูนซีเมนต์ในทวีปแอฟริกากลาง เอเชียกลาง เช่น อินเดีย บังคลาเทศ และอาเซียนเช่น เวียดนาม อินโดนีเชีย ฟิลิปปินส์ ฯลฯ

         ปี 2561 โอมานมียอดการส่งออกแร่ยิปซัม 7.5 ล้านตัน  และขยับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนถึงปี 2565 ที่ยอดส่งออกแร่ยิปซัมของโอมานมากถึงระดับ 10 ล้านตัน โดยใช้เรือขนส่งขนาดใหญ่ 60,000 – 80,000 ตันต่อลำ

         สำหรับประเทศไทยในระหว่างปี 2560-2562 มียอดการส่งออกแร่ยิปซัมเฉลี่ยประมาณ 6 ล้านตันต่อปี มูลค่าประมาณปีละ 4,200 ล้านบาท  แต่ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาตัวเลขการส่งออกลดลงโดย ปี 2563 ส่งออกปริมาณ 4.2 ล้านตัน มูลค่าส่งออก 2,674,673,956 บาท (FOB)  ปี 2564 ส่งออกปริมาณ 5 ล้านตัน มูลค่าส่งออก 3,214,936,921 บาท (FOB) ปี 2565 ปริมาณ 4.5 ล้านตัน มูลค่า 3,315,612,742 บาท  ปี 2566 คาดการณ์ว่าจะมียอดส่งออกเพียง 3.5 – 3.8 ล้านตัน ลดลงประมาณ 11% – 15% จากปี 2565

         ที่ปรึกษาสมาคมสินแร่ฯกล่าวอีกว่า  การที่โอมานป่วนตลาดแร่ยิปซัมเช่นนี้สร้างผลกระทบต่อธุรกิจส่งออกแร่ของไทย จำเป็นอย่างยิ่งที่ภาครัฐจะต้องแก้ไขเป็นการด่วน โดยขอเสนอดังนี้  1. มีนโยบายช่วยเหลือสนับสนุนผู้ประกอบการให้ลดต้นทุนการผลิตตลอดห่วงโซ่การผลิตและส่งออก  2. สนับสนุนการขอประทานบัตร  3. สนับสนุนการใช้ทรัพยากรแร่ในพื้นที่ ส.ป.ก.  4. สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้แข่งขันได้

         “ผู้ประกอบการแร่ โดยเฉพาะแร่ยิปซัมประสบปัญหาความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสมาร่วม 10​ ปีแล้ว ช่วง 3 – 4 ปีที่เกิดโรคระบาดโควิดได้ซ้ำเติมให้หนักหนามากขึ้น  เมื่อมาเจอโอมานกดราคาแร่ทำให้ไทยต้องสูญเสียตลาด สมาคมสินแร่ฯ เห็นว่าการที่ผู้ประกอบการไทยจะอยู่รอดได้และมีส่วนช่วยฟื้นเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นการจ้างงาน การพัฒนาชุมชนท้องถิ่น การเสียค่าภาคหลวง จ่ายภาษีเงินได้ให้กับรัฐ ควรที่รัฐบาลในยุคนี้จะยื่นมือเข้ามาแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วนเช่นเดียวกับการช่วยผู้ประกอบการในภาคอื่นๆนางสาวโชติกากล่าวทิ้งท้าย

………………………………………………

📍www.indyreport.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *