สมาคมสินแร่ฯ เสนอรัฐบาลประยุทธ์เร่งผลักดันร่างกฎหมายปฏิรูปที่ดินและคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรมเข้าที่ประชุมร่วมรัฐสภาให้ผ่าน 3 วาระทันก่อนปิดสมัยประชุมสภาเดือนกันยายนนี้ ชี้เป็นโอกาสฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศเกิดประโยชน์กับทุกกลุ่มจากการปลดล็อกใช้ประโยชน์ที่ดินทั่วประเทศ
ดร.วิจักษ์ พงษ์เภตรา นายกสมาคมสินแร่และวัสดุก่อสร้างเปิดเผยว่า ทราบมาว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.) ได้ยกร่างพ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินและคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม พ.ศ…..เสร็จแล้ว โดยยกเลิกพ.ร.บ.ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 ซึ่งใช้มานานเกือบ 50 ปี ถือเป็นการยกเครื่องกฎหมายปฏิรูปที่ดินของส.ป.ก.ครั้งสำคัญ ตนเห็นว่ากระทรวงเกษตรฯควรเร่งเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวไปยังคณะรัฐมนตรีเพื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะได้นำเสนอต่อประธานรัฐสภาให้บรรจุระเบียบวาระและพิจารณาตามขั้นตอนให้ผ่าน 3 วาระได้ทันก่อนปิดสมัยประชุมวันที่ 18 กันยายน และจะได้ประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป
ดร.วิจักษ์กล่าวว่า ร่างพ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินและคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม เข้าเงื่อนไขรัฐธรรมนูญ หมวด 16 ว่าด้วยการปฏิรูปประเทศ รัฐบาลเสนอให้รัฐสภาซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนฯและวุฒิสภาพิจารณาร่วมกันได้เลย ไม่ต้องเข้าสภาผู้แทนฯก่อนแล้วค่อยส่งให้วุฒิสภาเหมือนร่างพ.ร.บ.ทั่วไปซึ่งจะใช้เวลานาน การเข้าช่องทางด่วนรัฐสภา จะทำให้ตรากฎหมายได้รวดเร็วขึ้นเสร็จทันในรัฐบาลนี้ที่ประกอบไปด้วยพรรคการเมืองต่างๆ
“ร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้ สมาคมสินแร่ฯเห็นว่า ถ้าประกาศใช้เป็นกฎหมายจะเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศอย่างมหาศาล เกิดประโยชน์กับคนมากมายหลายอาชีพ เป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในการใช้ที่ดินส.ป.ก.ให้เกิดประโยชน์ทันยุคสมัยโดยพิจารณาในทุกมิติ สมควรได้รับการชื่นชมว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของรัฐบาล” ดร.วิจักษ์กล่าว
นายกสมาคมสินแร่และวัสดุก่อสร้างกล่าวว่า สาระสำคัญในร่างพ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินและคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม เป็นการกำหนดเขตการใช้ประโยชน์ที่ดิน ส.ป.ก.ให้เป็นพื้นที่เกษตรกรรม ที่อยู่อาศัย และกิจการสนับสนุนเกี่ยวเนื่อง กิจการสาธารณูปโภค กิจการเพื่อประโยชน์สาธารณะของประเทศ เช่น ด้านพลังงาน ลม ปิโตรเลียม ไฟฟ้า ทรัพยากรแร่ คมนาคม โทรศัพท์ โลจิสติกส์ ขนส่ง เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งกองทุนการปฏิรูปที่ดินและคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อชุมชนและการพัฒนาประเทศ
“สมาคมสินแร่ฯได้ศึกษาและวิเคราะห์ร่างพ.ร.บ.ฉบับใหม่นี้แล้ว เห็นว่า จะเกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่ายอย่างมาก อีกทั้งเป็นการปลดล็อคปัญหาอุปสรรคที่ทำให้ไม่สามารถใช้ที่ดิน ส.ป.ก.ให้เป็นประโยชน์ในกิจการต่างๆได้ ทั้งๆที่ที่ดินส.ป.ก.ในหลายพื้นที่ไม่เอื้อต่อการทำเกษตรกรรม สมาคมสินแร่ฯขอสนับสนุนอย่างเต็มที่ อันจะส่งผลให้ปัญหาอุปสรรคของประชาชนและผู้ประกอบการทุกภาคส่วนได้รับการแก้ไข จึงขอวิงวอนให้รัฐบาลและรัฐสภาร่วมมือกันผลักดันร่างกฎหมายฉบับนี้ให้ผ่านกระบวนการตรากฎหมายนำมาบังคับใช้โดยเร็ว จะสร้างคุณูปการกับประเทศชาติอย่างมาก” ดร.วิจักษ์กล่าว
……………………………….….…….……….…
📍www.indyreport.com