ใครว่าชีวิตหลังคลายล็อกดาวน์ จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม ขอยกมือเถียงแล้วหนึ่ง เพราะสิ่งที่เปลี่ยนไปชัดเจนที่สุด คือรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คนในสังคมที่จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป โควิดทำให้หลายคนหันมาเลือกซื้อสินค้าหลากหลายช่องทางมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบออนไลน์ หรือ เดลิเวอรี่ เนื่องจากมีความรวดเร็ว ไม่ยุ่งยาก แถมยังสะดวกสบาย ในขณะที่นักช้อปบางคนก็ยังชื่นชอบกับการช้อปหน้าร้าน เพราะได้สัมผัสสินค้า และได้พูดคุยกับพนักงานขายอย่างใกล้ชิด ด้วยเหตุนี้แพลตฟอร์มและบริการ “ออมนิแชแนล” จึงเกิดขึ้นเพื่อรองรับทุกความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย และชอบความสบายแตกต่างกัน
เซ็นทรัล รีเทล รุกคืบธุรกิจปรับกลยุทธ์มัดใจผู้บริโภคให้กลับมาเชื่อมั่นในตัวห้างสรรพสินค้า ควบคู่ไปกับการเติบโตของแพลตฟอร์มออมนิแชแนล โดยในส่วนออฟไลน์ มีการปรับปรุงพื้นที่หน้าร้านต่างๆ ให้สวยงามและทันสมัยมากขึ้น อาทิ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลสาขาชิดลม สาขาพระราม 2 และสาขาลาดพร้าว เป็นต้น เพื่อสร้างบรรยากาศการเดินเลือกซื้อสินค้าที่หน้าร้านให้กลับมามีชีวิตชีวา เตรียมพร้อมรองรับลูกค้าทุกกลุ่มในทุกพื้นที่ และในส่วนของช่องทางออนไลน์มีการเพิ่มบริการใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภครอบด้าน โดยเซ็นทรัล รีเทล มุ่งมั่นที่จะให้บริการที่ดีที่สุด และสะดวกสบายที่สุดผ่านแพลตฟอร์มออมนิแชแนลที่สมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศไทย ด้วยการรวบออฟไลน์และออนไลน์เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อรองรับทุกความต้องการของผู้บริโภคที่ไร้ขีดจำกัด
นางสาวปิยวรรณ ลีละสมภพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เซ็นทรัล รีเทล เข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนเเปลงไปจากสถานการณ์โควิด-19 เเละเทรนด์โลกที่ไม่เหมือนเดิม จึงได้ปรับกลยุทธ์ให้รับกับการเปลี่ยนแปลง โดยยึดหลัก Customer-Centric หรือ ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และผสานช่องทางจำหน่ายสินค้าแบบออฟไลน์และออนไลน์เป็นหนึ่งเดียว ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการได้อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งจะเป็นการช่วยยกระดับประสบการณ์ในการช้อปปิ้งอย่างไร้ขีดจำกัด นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังได้เปิดตัว คลิปออนไลน์ “สบาย Shopper” ในแคมเปญ “ชอบสบาย ต้องช้อปสบายยย” เน้นเล่าเรื่องราวผ่านตัวแทนของกลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์การเลือกช้อปในช่องทางที่ต่างกัน เสมือนมีคู่มือให้ผู้บริโภคได้เลือกช่องทางการซื้อสินค้า และเข้าถึงบริการใหม่ ๆ ได้สะดวกมากขึ้น ทำให้ลูกค้าช้อปสบายทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ ผ่านแพลตฟอร์มออมนิแชแนล ที่รวม 10 ช่องทางและบริการ ได้แก่ Shop Online, Call & Shop, Chat & Shop, Shop Via Facebook, E-Ordering, Click & Collect, Shop & Drive Thru, Quick Commerce,Call Center และ Mobile App ที่มี2 แอปพลิเคชั่นหลัก อย่าง Central App – Everyday Lifestyle Application และ Tops App – Food & Grocery ซึ่งจะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนทุกกลุ่ม ถือเป็นการพลิกมิติการช้อปให้ทันสมัยรับกับเทรนด์ปัจจุบัน โดยมีแนวคิดมาจากความเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ชอบสบายและอยากช้อปสบายที่สุด” นางสาวปิยวรรณ กล่าวสรุป
สำหรับผู้สนใจ สามารถรับชมคลิปออนไลน์ “สบาย Shopper” ในแคมเปญ “ชอบสบาย ต้องช้อปสบายยย” ได้แล้ววันนี้ ทางเฟซบุ๊ก ww.facebook.com/CentralRetail และยูทูป Central Retail
###
เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย และเป็นบริษัทเรือธงด้านค้าปลีกซึ่งเป็นรากฐานของกลุ่มเซ็นทรัล มีเครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,687 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564) นำเสนอสินค้าหลากหลายประเภท (Multi-category) ผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มออมนิแชนแนล ธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มแฟชั่น เน้นสินค้าเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ภายใต้ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน, ซูเปอร์สปอร์ต, เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป (CMG) และรีนาเชนเต (Rinascente); (2) กลุ่มฮาร์ดไลน์ เน้นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าตกแต่งซ่อมแซมบ้าน ภายใต้ ไทวัสดุ, บ้านแอนด์บียอนด์, เพาเวอร์บาย, เหงียนคิม, ออฟฟิศเมท, บีทูเอส, และเมพ (e-book); (3) กลุ่มฟู้ด เน้นสินค้าของสดและของใช้บริโภคในครัวเรือน ภายใต้ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ เดลี่, แฟมิลี่มาร์ท, บิ๊กซี/โก! และลานชี มาร์ท; และ (4) กลุ่มพร้อพเพอร์ตี้ เน้นให้เช่าพื้นที่ค้าปลีกแก่บุคคลภายนอกและร้านค้าในเครือฯ ภายใต้ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์, ท็อปส์ พลาซ่า, และบิ๊กซี/โก! โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 54 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 39 จังหวัด, และประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน2564)
…………………………………………………… 📍www.indyreport.com