#สนามหลวง #เด็กบ้านสวน
สถานที่ไกลที่สุดที่ผมเคยไปเที่ยวสมัยก่อน ก็คงเป็นที่ #สนามหลวง นี่แหละฮะ
ผมเคยมาที่นี่เพียง 2-3 ครั้งเท่านั้น ครั้งนึงแค่ผ่านๆ เพราะพ่อแม่พามาที่บางลำภู รู้สึกเป็นที่ที่เจริญมากๆ เป็นเมืองอย่างเต็มรูปแบบยิ่งกว่าในตัวตลาดนนท์เสียด้วยซ้ำ ตอนนั้นยังมีเพียงสามห้างสรรพสินค้าที่ผมรู้สึกว่า ล้ำยุคสุดๆเพราะมีบันไดเลื่อนด้วย คือ ห้างบางลำภู ตั้งฮั่วเส็ง และ ห้างแก้วฟ้าพลาซ่า ส่วนห้างนิวเวิลด์ นี่ผมไม่แน่ใจว่าตอนนั้นมีหรือยัง ปัจจุบันนี้เหลือเพียง ตั้งฮั่วเส็ง เท่านั้น
อีกครั้งที่เข้าไปสัมผัสสนามหลวงด้วยตนเอง คือ ตอนเรียน มัธยม คุณครูให้ไปซื้อหนังสือ หรือโปสเตอร์ประกอบการศึกษา จากที่นั่นมาประกอบการเรียน แหละฮะ
หลายท่านคงจำภาพ #สนามหลวง สมัยนั้นได้ว่าครึกครื้นและแออัดขนาดไหน มากกว่าในภาพที่ผมเขียน 3-4 เท่าเลยแหละฮะ ถ้าว่ากันตามจริงภาพนี้ เราคงเห็นแต่ทิวร่มกันแดด และผ้าใบหลังคาร้านค้า เต็มพรืดสุดลูกหูลูกตาไปหมดทั้งสนามหลวงเลยครับ
ทุกวันเสาร์อาทิตย์ รอบๆสนามหลวงจะกลายเป็นตลาดนัดขนาดมหึมา มีของทุกอย่างตั้งแต่ของมือสองถูกๆ เสื้อผ้า ไปจนถึงของสะสมจากต่างประเทศ
ถนนภายในรอบสนามหลวงที่ท่านเห็นทุกวันนี้ จะเป็นร้านค้าที่มาจากทุกที่ในประเทศไทย สินค้าเกษตรตรงจากแหล่ง ทั้งไข่ เป็ด ไก่ ผักปลา ข้าวสารอาหารแห้ง หอมกระเทียม มาจากผู้ผลิตโดยตรงกันเลยทีเดียว ก็คงคล้ายๆงานเกษตรสมัยนี้แหละครับ
ด้านในสนามหลวงด้านทิศเหนือที่หันมาทาง กรมประชาสัมพันธ์นั้น จะมีเต๊นท์มากมายกางไว้ขายของจำพวกสัตว์เลี้ยงต่างๆ ทั้งหมาแมว และปลาสวยงาม ซึ่งถ้านึกภาพจริงไม่ออก ก็ให้นึกถึงจตุจักร เพราะว่าใกล้เคียงที่สุด
ส่วนทางด้านทิศใต้ ก็จะเป็นพื้นที่โล่ง ไว้ให้คนวิ่งว่าว เช่าเสื่อปูกินอาหาร โดยมีพ่อค้าแม่ค้าหาบของมาขายกันถึงเสื่อทีเดียว และมีกิจการเช่าจักรยาน ปั่นเล่นกันด้วยนะฮะสมัยนั้น
ส่วนถนนผ่ากลางสนามหลวงที่อยู่ระหว่าง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กับ ศาลฎีกา ก็จะเป็นที่ตั้งร้านค้าของกินหลากหลายมากมาย ทั้งรถเข็นที่เอาโต๊ะเก้าอี้มาตั้ง มีทุกอย่างให้เลือกสรรกินเอา อีกทั้งยังมีหาบของกินตั้งแต่ขนมจีน ของปิ้งย่าง ข้าวเหนียวส้มตำที่นั่งกินกันตรงหาบนั่นแหละฮะ คึกคักสนุกดีเหลือเกินสำหรับนักชอปปิ้งสมัยนั้น
ส่วนรอบๆพระแม่ธรณีบีบมวยผม จะเป็นแหล่งของแผงหนังสือ ทั้งมือหนึ่งมือสอง แหล่งขายงานศิลปะโปสเตอร์ ภาพวาดและแสตมป์ครับ
ตรงด้านหลังศาลฎีกา จะเป็นเหล่าร้านต้นไม้มากมาย โดยพ่อค้าแม่ค้าจะเอาต้นไม้ใส่เรือพายเข้ามาในคลองหลอด แล้วเอาขึ้นมาตั้งขายกันตรงข้างๆและข้างหลังศาลนั่นแหละฮะ
ทุกท่านคงจำกันได้ถึง ‘หมอดูต้นมะขาม’ สมัยก่อน จริงๆยังมีอีกอย่างที่เป็นอาชีพน่ารักน่าสนุกทีเดียว อยู่ในภาพ ผมเขียน‘ปาหี่งูกับพังพอน’ และ ‘ปาหี่อับดุลรู้หมด’อยู่ด้วย ลองหากันดูเล่นๆนะฮะ
สมัยก่อนมักมีมิจฉาชีพวิ่งราวกระเป๋ากันเนืองๆ ผมก็เขียนไว้ด้วย ท่านผู้อ่านจะเห็นมั้ยเอ่ย
หลังจากนั้นไม่นาน ประมาณปี 2525-26 ท่านนายกฯเปรม ก็ให้ย้ายสนามหลวงไปอยู่ ตลาดจตุจักรอย่างที่ทราบกัน ท่ามกลางการประท้วงของพ่อค้าแม่ค้าอยู่เนืองๆ ทยอยๆไปทีละส่วน โดยที่ไปหลังใครสุดก็คือเหล่าแผงหนังสือตรงรอบพระแม่ธรณีฯแหละฮะ
เป็นบรรยากาศกรุงเทพฯที่เคยเป็นอีกอย่างหนึ่งที่ผมอดคิดถึงไม่ได้ ถ้าภาพไม่ละเอียดพอผมก็ขออภัยนะที่นี้นะฮะ เพราะการอัดสนามหลวงทั้งสนามไว้ในกระดาษ A4 เนี่ย มันถือเป็นอะไรที่ใหญ่เกินตัวผมเหมือนกันครับ
📍www.indyreport.com