ดร.แซม แคมโบเดีย ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีกัมพูชาและรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการท่องเที่ยว เชิญสื่อไทย“ชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว” ร่วมงานเทศกาล Kampot Sea Festival 2019 และเยี่ยมชมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชื่อมโยงไทย–กัมพูชา
ระหว่างวันที่ 19-22 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา Dr. Sokrethya Sok หรือ ดร.แซม แคมโบเดีย ที่ปรึกษาส่วนตัวของสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการท่องเที่ยว ได้เชิญชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว จากประเทศไทยร่วม Fam Trip เพื่อประชาสัมพันธ์และร่วมงาน Sea festival 2019 @Kampot และประชาสัมพันธ์อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการลงทุนในกัมพูชา ณเมืองกัมปอตและเมืองแกบ Ecotourism แลนด์มาร์คแหล่งท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลสำคัญของราชอาณาจักรกัมพูชา
งานเทศกาลทางทะเล Kampot Sea Festival 2019 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 ธันวาคม 2562 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 8 เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ได้รับเกียรติจาก สมเด็จอัครมหาเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน นายทอง คน รัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวกัมพูชา กล่าวรายงาน รวมถึงสถานเอกอัครราชทูตฑูตไทย เข้าร่วมงานโดยการนำของ นายพิชิต บุญสุด อัครราชฑูตไทย นำข้าราชการพนักงานในสังกัด นำเสนอบูธอาหารเครื่องดื่มบริการแก่ผู้ร่วมงานและประชาสัมพันธ์สินค้าผลิตภัณฑ์ของไทยด้วย ในงานมีการออกบูธสินค้าต่างๆ ของแต่ละประเทศที่เข้าร่วมงาน รวมทั้งบูธสินค้าขึ้นชื่อของท้องถิ่นและบูธแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของประเทศกัมพูชาร่วมจัดแสดงผลิตภัณฑ์และสินค้าบริการแก่ผู้เข้าชมทั้งในและต่างประเทศ มีผู้ร่วมงานเป็นจำนวนมาก
สำหรับเมืองกัมปอตนั้น ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของกัมพูชามีพื้นที่ติดกับทะเลอ่าวไทย อยู่ระหว่างเมืองสีหนุวิลล์และเมืองแกบ มีสินค้าขึ้นชื่อคือ พริกไทย ที่ได้รับได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์ Geographical Indication (GI) มีเกลือทะเล ทุเรียนออร์แกนิคคุณภาพดี มีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม วิถีชีวิต อาคารบ้านเมืองเก่า สไตล์ชิโนโปรตุเกส และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม ทั้งน้ำตกและทะเล ซึ่งเหมาะแกการเจัดงานเทศกาลทางทะเล Kampot Sea Festival 2019 เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่าง
โดยมีกิจกรรมรณรงค์ รักษ์สิ่งแวดล้อมปลูกไม้ยืนต้นที่เมืองกัมปอต จัดเก็บขยะสิ่งปฏิกูล และบำบัดน้ำเสีย ก่อนปล่อยลงทะเล และร่วมอนุรักษ์ชายฝั่งทะเลและอ่าวไทย ที่เมืองแกบในคอนเซ็ปท์ Clean City Beautiful bay Healthy Tourism “เมืองสะอาด ชายหาดอ่าวสวย ด้วยท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ” และชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยวได้รับเกียรติเข้าร่วมกิจกรรมด้วย ทั้งนี้ ดร.แซม หรือ Dr. Sokrethya Sok ระบุว่า ปัจจุบันทั้งกัมปอตและเมืองแกบ พร้อมเปิดรับนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและกิจการค้าอื่นๆ ที่กำลังเติบโตอย่างเต็มที่
Dr.Sokrethya Sok หรือ ดร.แซม แคมโบเดีย เป็นบุตรชายของท่าน Sok Eysan ซึ่งเป็นสมาชิกวุฒิสภาและโฆษกของพรรคประชาชนกัมพูชา ปัจจุบัน ดร.แซม แคมโบเดีย ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา Samdech Hun Sen’ s adviser and Secretary of State at Ministry of Tourism อีกด้วย ดร.แซม สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขารัฐศาสตร์, ปริญญาโทด้านการจัดการ, ปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์การเมืองและศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต ปริญญาเอก ด้านกิจการสาธารณะจากมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสื่อมวลชนไทยที่ไปร่วมงานในครั้งนี้ด้วย
Dr. Sokrethya Sok หรือ ดร. แซม แคมโบเดีย กล่าวว่า “สำหรับงานเทศกาลทะเล Kampot Sea Festival 2019 ครั้งที่ 8 ณ จังหวัดกัมปอต ประเทศกัมพูชา เป็นงานที่ใหญ่พอสมควร มีนายกรัฐมตรี ฮุน เซน มาเปิดงานเป็นเกียรติด้วย และชาวกัมพูชาและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเที่ยวที่เมืองกัมปอตกว่า 1-2 ล้านคน ก็อยากจะประชาสัมพันธ์ให้คนไทยและประเทศในอาเซียนทราบว่า ในแต่ละปีและทุกๆ สองปีเราจะมีเทศกาลทะเล และทุกๆ สองปีเราจะมีเทศกาลแม่น้ำ ซึ่งทางรัฐบาลคือกระทรวงการท่องเที่ยวจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวกัมพูชา
สำหรับเมืองกัมปอตนั้นเป็นเมืองเก่า มีความโดดเด่นทางด้านวัฒนธรรม มีทะเล ส่วน Ecotourism มีชื่อเสียงทางด้านพริกไทย เกลือออร์แกนิคส่งออก และมีป่าชายฝั่งทะเลสามารถนั่งเรือท่องเที่ยวถ่ายรูปได้ มี“อุทยานโบโก” เป็นอุทยานเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงพอสมควร ซึ่งตอนนี้ก็มีโรงแรม มีกาสิโนโบโก มีป่ามีธรรมชาติและอื่นๆ อีกมากมายให้ชม
นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวยังเมืองใกล้เคียงคือ “เมืองแกบ” ซึ่งเป็นเมืองติดทะเลมีภูเขามีบรรยากาศดีและจะมีพระพุทธรูปที่ใหญ่ ซึ่งรัฐบาลตอนนี้กำลังเขียนผังเมืองและจะทำให้เมืองแกบเป็นเมือง Ecotourism ส่วนจุดเด่นของเมืองท่องเที่ยวกัมปอตและเมืองแกบที่เป็นเมือง Ecotourism ไม่ให้มีตึกสูงและอนุรักษ์ไปทาง Ecotourism สามารถข้ามไปเที่ยวที่ สีหนุวิลล์ ได้ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งถ้าไปทางรถยนต์ หรือสมมุติว่ามาจากไทย เวียตนาม สามารถลงเครื่องที่สีหนุวิลล์และกลับมาที่กัมปอตก็ยังได้
ส่วนเมืองแกบนั้นจุดเด่นก็คือ Ecotourism เช่นกันและติดทะเล ซึ่งเมืองแกบจะมีชายหาดที่เก่าแก่กว่ากัมปอต ส่วนอาหารการกินที่เมืองกัมปอตจะพร้อมกว่าจังหวัดแกบ ที่กัมปอตมีกุ้งแห้งที่ขึ้นชื่อซึ่งใครที่มาเที่ยวเมืองกัมปอตมักจะซื้อกุ้งแห้ง กะปิ ไปฝากเพื่อนๆ คนที่บ้าน และนอกจากนี้เมืองกัมปอตยังมีชื่อเสียงในด้านผลไม้เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุด ซึ่งเป็นออร์แกนิคและมีวิธีการปลูกแบบเก่าแก่ดั้งเดิม
ดร.แซม ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “รัฐบาล ฮุน เซน มีนโยบายที่เน้นในเรื่องของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและชายหาดอยู่แล้ว อย่างเช่น เมื่อวานนี้ที่มีการเปิดงานบ่อบำบัดน้ำเสีย ซึ่งเป็นการช่วยเหลือจากธนาคาร ADB และพึ่งสร้างเสร็จ ส่วนที่กำปอตก็มีแผนที่จะสร้างด้วยเช่นกัน ที่รวมทั้งที่สีหนุวิลล์ด้วย แต่ที่เมืองแกบเสร็จเรียบร้อยแล้วเพราะเป็นเล็กกว่าที่อื่น ซึ่งจะเป็นต้นแบบให้แก่แหล่งท่องเที่ยวทางชายทะเลอื่นๆ ทั้งหมด และมีท่าเรือท่องเที่ยวที่กำลังสร้างอยู่ ต่อไปจะให้เรือท่องเที่ยวทั้งหมดจะมาผ่านตรงกัมปอต ถ้ามาจากเวียตนาม จากไทยสามารถมาที่ท่าเรือนี้และค่อยกระจายไปเมืองอื่นๆ ที่ติดชายฝั่ง
ส่วนด้าน Digital Marketing ที่เคยเรียนให้ทราบมาก่อนหน้าเกี่ยวกับกับ App การท่องเที่ยว ที่จะนำมาสนับสนุนการท่องเที่ยวกัมพูชานั้น ซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างการทดลองใช้ ซึ่งตอนนี้ยังไม่เปิดใช้อย่างเป็นทางการเพราะข้อมูลยังไม่สมบูรณ์ ตอนนี้กำลังพัฒนาและทดลองใช้ให้สมบูรณ์ก่อน ซึ่ง App ตัวนี้จะช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทางด้านความปลอดภัย SOS และให้ทดลองใช้ 30 วัน ซึ่ง App นี้ใช้เงินทุนสองแสนห้าหมื่นเหรียญและมีMOU กับบริษัทประกันของสหรัฐอเมริกา ซึ่งนักท่องเที่ยวก่อนจะเดินทางมาท่องเที่ยวที่กัมพูชาจะต้องโหลดApp นี้และซื้อบริการถ้าไม่ซื้อจะเข้ากัมพูชาไม่ได้ ซึ่งบริการนี้จะช่วยเรื่องความปลอดภัย และเมื่อมีบริการของApp ตัวนี้แล้วหากนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวที่ไหน เช่น กัมปอต หรือ เมืองแกบ ถ้ามีปัญหาที่ไหนก็สามารถกด Smart SOS ให้เรารู้ได้ว่ามีปัญหา เราจะมีปุ่มของเราที่ประสานกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นให้ช่วยเหลือ ซึ่ง App นี้จะมีศูนย์จะคอยประสานไปยังเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่อยู่ใกล้ที่สุดทันที
ทั้งนี้ ดร.แซม แคมโบเดีย ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยกระทรวงท่องเที่ยว ยังได้กล่าวเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวประเทศกัมพูชาซึ่งปัจจุบันประเทศกัมพูชาไม่เหมือน 20 -30 ปี ก่อนแล้ว ตอนนี้กัมพูชามีศักยกภาพมีการเมืองที่นิ่งร้อยเปอร์เซนต์ ไม่มีการสู้รบและไม่มีการแย่งอำนาจกัน คนไทยและชาติอาเซียนสามารถเข้ามาเที่ยวได้โดยไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย และที่กัมพูชาสามารถมาเที่ยวแบบธรรมชาติวัฒนธรรม ทำบุญไหว้พระ ซึ่งตอนนี้เรากำลังเตรียมทำแพคเกจทัวร์สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวกัมพูชา มาไหว้พระ 9 วัด และมาเที่ยวกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในประเทศกัมพูชา 9 จุด และจะมีแพคเกจหนึ่งที่พิเศษหน่อยให้มาเที่ยวบ่อนกาสิโนโดยเฉพาะ ซึ่งกำลังทำแพคเกจ 3 แพคเกจนี้อยู่ เพื่อขายและกระจายไปทั่วเอเชียและขายทั่วโลก แต่จะเน้นเป็นตลาดจีนกับตลาดอาเซียน ซึ่งสามารถเข้าไปติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่กระทรวงการท่องเที่ยว และประสานกับศูนย์การท่องเที่ยวของกัมพูชา และสามารถติดต่อไปทางบริษัททัวร์ได้ครับ” ดร.แซมกล่าว
สำหรับประเทศกัมพูชา ถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่อยู่ในกลุ่มประเทศอาเซียนที่น่าจับตามอง ทั้งในด้านการท่องเที่ยวและการลงทุน แม้ว่ากัมพูชาจะเป็นตลาดที่ไม่ใหญ่นักแต่ก็เป็นประเทศที่มีความสำคัญอย่างมากในแง่การค้าชายแดน มีบทบาทสำคัญในฐานะฐานการผลิตใหม่ของกลุ่มประเทศอาเซียนซึ่งมีต้นทุนแรงงานยังไม่สูงนักอีกทั้งกัมพูชายังมีเส้นทางโลจิสติกส์ทั้งทางบก และทางน้ำที่เชื่อมโยงการค้าไปยังเวียดนาม จีน และประเทศอื่นๆ อีกด้วย นอกจากนี้กัมพูชายังอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ดังนั้น กัมพูชาจึงนับเป็นอีกตลาดหนึ่งที่จะสร้างโอกาสการค้า และการลงทุนให้กับนักธุรกิจที่น่าสนใจ
📍www.indyreport.com