ททท. ร่วมสืบสานสายน้ำ สายศรัทธา “ประเพณีรับบัว” ครั้งที่ 83

จังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกับอำเภอบางพลี องค์กรปกครองท้องถิ่น และการท่องเที่ยวเที่ยวแห่งประเทศไทย กำหนดจัดงานสายน้ำ สายศรัทธา ร่วมสืบสาน “ประเพณีรับบัว” ครั้งที่ 83 ระหว่างวันที่ 20 – 23 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา  ณ วัดบางพลีใหญ่ในและหน้าที่ว่าการอำเภอบางพลี อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีนักท่องเที่ยวและประชาชนผู้สนใจแห่เข้าร่วมงานอย่างล้นหลาม. www.indyreport.com
ที่จังหวัดสมุทรปราการมีเรื่องเล่าต่อกันมาว่าในคืนวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 ชาวมอญจะล่องเรือมายังบ้านบางพลี พร้อมกับเครื่องดนตรีนานาชนิด เช่น ซอ ปี่ กระจับ โทน รำมะนา โหม่ง กรับ ฉิ่ง ฉาบ ฯลฯ ด้วยความมีนำ้ใจชาวไทยในบ้านบางพลีก็จะเตรียมข้าวปลาอาหารไว้รอต้อนรับ พร้อมกับออกไปเก็บดอกบัวมาเตรียมไว้ให้กับชาวมอญ เพื่อนำไปบูชาพระคาถาพันและบูชาพระในเทศกาลออกพรรษา พอเช้าวันรุ่งขึ้นชาวมอญก็จะล่องเรือออกมารับดอกบัวจากชาวไทย แรกๆ นั้นก็ยื่นดอกบัวให้กันแบบมือต่อมือ ต่อมาก็มีโยนให้กันบ้างจนกลายเป็น “รับบัว โยนบัว” และได้ทำเป็นประเพณีสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน
ดังนั้นประเพณีรับบัวเปรียบเสมือนสายใยแห่งความกลมเกลียว อันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เสมอเพื่อนเสมือนญาติ ระหว่างชาวไทย ชาวลาว และชาวรามัญ ที่พำนักอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขภายใต้ร่มบารมีอันศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโต ณ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ หล่อหลอมจิตวิญญาณและมิตรไมตรีเข้าไว้ด้วยกันอย่างแน่นแฟ้นเป็นมิ่งมงคลแห่งชีวิตสืบต่อมาช้านนาน ก่อกำเนิดสายน้ำแห่งชีวีสู่ประเพณีรับบัว ซึ่งประเพณีรับบัว 2561 สมุทรปราการ หนึ่งเดียวในโลก แห่งเดียวในประเทศไทย จะจัดขึ้นช่วงวันออกพรรษา เป็นช่วงเวลาที่หลายๆ พื้นที่ในประเทศไทยจะจัดงานบุญอย่างยิ่งใหญ่
ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานสามารถชมและเข้าร่วมงานได้บริเวณริมคลองสำโรง ด้านหน้าวัดบางพลีใหญ่ใน โดยจะมีขบวนเรือของหลวงพ่อโต และพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ พร้อมด้วยเรือการแสดงพื้นบ้านประกอบดนตรีของชาวบ้านที่ตกแต่งอย่างสวยงามวิจิตรตระการตาแห่มาตามลำคลอง ชาวบ้านสามารถที่จะโยนดอกบัวเข้าไปยังเรือของหลวงพ่อโตและเรืออื่นๆ ได้ ประเพณีรับบัวเป็นประเพณีดั้งเดิมของชาวไทย-มอญ ในอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ มีการจัดสืบทอดกันมายาวนานหลายสิบปี และก็จะมีผู้เข้าร่วมงานเพิ่มขึ้นในทุก ๆ ปี
 
นางสาวบุณยานุช วรรณยิ่ง ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานฉะเชิงเทรา กล่าวว่า “ประเพณีรับบัวเป็นประเพณีเก่าแก่สืบทอดกันมาแต่โบราณของชาวอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ตรงกับวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี โดยในปีนี้ตรงกับวันที่ 23 ตุลาคม 2561 และการจัดงานปีนี้เป็น ปีที่ 83 แล้ว
ประเพณีรับบัวเปรียบเสมือนสายใยแห่งความกลมเกลียว อันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเสมือนเพื่อน เสมือนญาติระหว่างชาวไทย ชาวลาว ชาวรามัญ ที่พำนักอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขภายใต้บุญบารมีอันศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโตแห่งวัดบางพลีใหญ่ ตามตำนานเล่าว่ามีพระพุทธรูป 3 องค์ ลอยลงมาจากทางเหนือตามลำแม่น้ำเจ้าพระยา
พระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ ได้แสดงอภินิหารลอยตามลำแม่น้ำ องค์หนึ่งลอยไปแม่น้ำท่าจีนประดิษฐานอยู่ที่วัดเพชรสมุทรวรวิหาร จังหวัดสมุทรสงคราม คือ หลวงพ่อบ้านแหลม อีกองค์หนึ่งก็ลอยไปแม่น้ำบางปะกง ประดิษฐานอยู่ที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา คือ หลวงพ่อโสธร และอีกองค์หนึ่งคือหลวงพ่อโตก็ได้ลอยมาตามลำแม่น้ำเจ้าพระยาและเข้ามาในลำคลองสำโรง ประชาชนที่พบเห็นต่างก็โจษจันกันไปทั่ว พร้อมกับได้ร่วมกันพยายามอาราธนาพระพุทธรูปขึ้นที่ปากคลองสำโรงแต่ไม่สำเร็จ จนผู้มีปัญญาดีคนหนึ่งได้ให้ความเห็นว่า คงเป็นเพราะบุญญาอภินิหารของท่าน จึงควรจะเสี่ยงทายต่อแพผูกชะลอกับองค์ท่านแล้วใช้เรือพายฉุดท่านให้ลอยไปตามลำคลองสำโรง พร้อมกับตั้งจิตอธิษฐานว่าหากท่านประสงค์จะขึ้นที่ใดก็ขอให้แสดงอภินิหารให้แพที่ลอยมาหยุด ณ ที่นั้น ครั้นเมื่อแพลอยมาถึงบริเวณหน้าวัดบางพลีใหญ่ใน แพที่ผูกชะลอองค์ท่านมาก็เกิดหยุดนิ่ง จึงได้พร้อมใจกันอาราธนาอัญเชิญองค์ท่านขึ้นจากน้ำ ประดิษฐานวัดบางพลีใหญ่ในเรื่อยมา 
 
นักท่องเที่ยวสามารถร่วมชมขบวนแห่เรือทางน้ำ ทางบก และร่วมชมการประกวด การแข่งขันต่างๆ ณ ที่ว่าการอำเภอบางพลี และวัดบางพลีใหญ่ใน อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ” นางสาวบุณยานุช กล่าว   
นอกจากนี้จังหวัดสมุทรปราการยังมีสถานที่ท่องที่น่าสนใจอีกหลายแห่งรวมถึงจังหวัดติดต่อใกล้เคียง สามารถเดินทางเชื่อมโยงถึงกันได้ ที่นับเป็นสีสันตะวันออกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ไปเยือน โดยมีศาสนสถานต่างๆ อาทิ “วัดโสธรวรารามวรวิหาร” สักการะหลวงพ่อพุทธโสธร พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของ จ.ฉะเชิงเทรา
เดินทางต่อไปยัง “วัดบางปรงธรรมโชติการาม” สักการะหลวงพ่ออู่ทอง เป็นที่เคารพสักการะของชาวบางปรงเป็นอย่างมาก
จากนั้นแวะรับประทานอาหารกลางวัน เที่ยวชม “ตลาคลองสวน 100 ปี” แหล่งชุมชนขนาดใหญ่ในอดีต ชมสินค้าหลากหลาย ชิมอาหารอร่อยสูตรเฉพาะดั้งเดิม และสามารถเดินข้ามจังหวัดด้วยการข้ามสะพานไม้ในตลาดไปอีกหนึ่งจังหวัดได้เลย
จากนั้นจึงเดินทางต่อไป “วัดหัวคู้” ไหว้หลวงพ่อเขียวสุโขพุทโธภควา ซึ่งเล่ากันว่าในสมัยพระเจ้าตากสินได้มอบพระพุทธรูปโลหะ 1 องค์ ไว้เป็นที่ระลึก ชาวบ้านหัวคู้จึงได้สร้างพระพุทธรูปปุ้นครอบองค์โลหะไว้
ต่อด้วย “วัดบัวโรย” ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางพื้นที่เกษตรในจังหวัดสมุทรปราการ ภายในวัดมีเสนาสนะต่างๆ และมีพระประธานในอุโบสถ หล่อด้วยโลหะทองเหลือง หน้าตักกว้าง 1.20 เมตร มีพระจงกรมนามว่า “หลวงพ่อเพชร” นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์วัดบัวโรยอีกด้วย
และวัดที่น่าสนใจถัดมาคือ “วัดบางพลีใหญ่ใน พระอารามหลวง” สักการะหลวงพ่อโต เที่ยวชมตลาดโบราณบางพลี ตลาดเก่ากว่า 160 ปี ริมคลองสำโรง เป็นเรือนไม้แถว 2 ชั้น มีสินค้าหลากหลายประเภท ของกินของใช้มากมายให้เลือกจับจ่ายอย่างเพลิดเพลิน เป็นต้น หากยังท่องเที่ยวไม่จุใจอยากพักค้างและอยากเที่ยวที่จังหวัดสมุทรปราการต่อก็มีโรงแรมที่พักต่างๆ ไว้รองรับนักท่องเที่ยวมากมายให้เลือกพักอีกด้วย
 
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ อำเภอบางพลี หมายเลขโทรศัพท์0 2337 3489 หรือ ททท. สำนักงานฉะเชิงเทรา หมายเลขโทรศัพท์ 0 3851 4009    
www.indyreport.com
#indyloveเช็คอิน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *