ชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว (ช.ส.ท.) จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์“สุขทันที.. ที่เที่ยวบุรีรัมย์” เมืองปราสาทหิน ถิ่นภูเขาไฟ โดย คุณวรางคณา สุเมธวัน ประธานชมรมฯ นำทัพสื่อมวลชนและนักท่องเที่ยววัยเก๋าร่วม 80 ชีวิต ออกเดินทางท่องเที่ยวมุ่งหน้าไปยัง จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 5 – 7 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยได้รับการสนับสนุนจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท) ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และกาคท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานบุรีรัมย์
Day 1 : คณะพร้อมกัน ณ จุดหมายปตท.วิภาวดี 06.00 น. ออกเดินทางมุ่งสู่ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อเดินทางไปยังวัดภูม่านฟ้า อำเภอนางรอง “วัดภูม่านฟ้า” หรือ “สำนักสงฆ์พุทธศิลาภูม่านฟ้า” สัมผัสความอลังการ และความสวยงาม ของ วัดแห่งนี้ ถึงแม้จะยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ก็มีเค้าโครง ของความงดงาม ให้เห็นอยู่มากมาย โดยได้รับแรงบันดาลใจจากอาณาจักรขอมโบราณผสมผสานกับสถาปัตยกรรมพุทธสถานประเทศอินเดีย จุดมุ่งหมายคือสืบทอดความศรัทธาที่มีมายาวนานกว่าห้าพันปี
ในโอกาสนี้ คณะเดินทางชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว (ช.ส.ท.) จึงร่วมทำบุญถวายปัจจัยเพื่อสมทบทุนสร้างวัดในครั้งนี้ด้วย อนุโมทนาสาธุ
“วัดภูม่านฟ้า” ตั้งอยู่ในอำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์มีเนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ได้รับการอนุญาตให้สร้างวัดเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2562 และได้รับการอนุญาตให้ตั้งเป็นวัดในพุทธศาสนาเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2564
จากนั้นคณะเดินทางไปรับประทานอาหารมื้อกลางวันที่ร้านขาหมูชื่อดัง ณ ร้านจิ้งนำ ขาหมูนางรอง ซึ่งเป็นร้านขาหมูในตำนานของจังหวัดบุรีรัมย์ที่ขายมาจาวนานกว่า 50 ปี ที่ใครผ่านมาแถวนี้ มีโอกาสต้องมาลิ้มลองความอร่อยของขาหมูร้านนึ้
และเดินทางเข้าที่พัก ณ โรงแรม Socool Grand Hotel ซึ่งจะเป็นที่พักในคืนนี้เพื่อนำสัมภาระเก็บเข้าที่พักและเตรียมเดินทางไปสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งเมืองปราสาทหิน ถิ่นภูเขาไฟในช่วงบ่าย
จากนั้น เดินทางไปชม “ปราสาทหินเมืองต่ำ” อำเภอประโคนชัย ปราสาทหินเมืองต่ำห่างจากปราสาทหินพนมรุ้งไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 8 กิโลเมตร เป็นศาสนสถานที่สร้างตามคติความเชื่อทางศาสนาฮินดู สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเพื่อถวายพระศิวะมีลักษณะเป็นศาสนสถานประจำเมืองหรือชุมชน ซึ่งเป็นอิทธิพลศิลปะขอมแบบคลัง และบาปวน กำหนดอายุประมาณครึ่งหลังพุทธศตวรรษที่ 16 หรือราว 1,000 ปีมาแล้ว
หลังจากนั้นคณะเดินทางต่อยัง “อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง” อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ชม “ปราสาทหินพนมรุ้ง” ปราสาทหินพนมรุ้งเป็นหนึ่งในปราสาทหินขอมของไทยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์ และถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของจังหวัดบุรีรัมย์ ไฮไลท์สำคัญของการมาในครั้งนี้ คือ การชมปรากฏการณ์พระอาทิตย์ตกตรง 15 ช่องประตูปราสาทหินพนมรุ้งซึ่งพระอาทิตย์จะตกเวลาประมาณ 18.05 น. ซึ่งทุกคนก็อดใจรออย่างใจจดใจจ่อเพื่อรอชมปรากฏการณ์สำคัญในครั้งนี้ ซึ่ง 1 ปีจะมีเพียง 4 ครั้งเท่านั้น คือ พระอาทิตย์ขึ้นตรงผ่านช่องประตู 2 ครั้งในช่วงวันที่ 3 – 5 เมษายน และวันที่ 8 – 10 กันยายน ส่วนพระอาทิตย์ตกตรงผ่านช่องประตู 2 ครั้ง ในช่วงวันที่ 5 – 7 มีนาคม และวันที่ 5 – 7 ตุลาคม ของทุกปี ต้องขอขอบคุณ คุณปฏิพัฒน์ พุ่มพงษ์แพทย์ จากกรมศิลปากร ที่ค้นพบปรากฏการณ์สำคัญนี้
ก่อนเข้าที่พักแวะรับประทานอาหารมื้อค่ำที่ ร้านข้าวต้ม 24 อีกหนึ่งร้านข้าวต้มของจังหวัดบุรีรัมย์ที่อยากแนะนำ
Day 2 : หลังจากรับประทานอาหารมื้อเช้าและเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมแล้ว เดินทางต่อไปยังอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ชมป่องภูเขาไฟ วนอุทยานเขากระโดง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ ปากปล่องภูเขาไฟกระโดงมีอายุประมาณ 300,000 – 900,000 ปี
ปัจจุบัน มีสภาพเป็นแอ่งน้ำ มีเส้นทางเดินชมรอบปล่อง และมีสะพานแขวนให้เดินชมได้จากมุมสูง พร้อมสักการะ “พระสุภัทรบพิตร” พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองบุรีรัมย์ประดิษฐานบนยอดสูงสุดของเขากระโดง และชมทิวทัศน์ที่สวยงามของตัวเมืองบุรีรัมย์
จากนั้นคณะเดินทางต่อไปยัง “ศูนย์อนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำและนกกระเรียนพันธุ์ไทยจังหวัดบุรีรัมย์” แหล่งเรียนรู้ที่สำคัญของจังหวัดบุรีรัมย์ และเป็นการถ่ายทอดความสำเร็จในด้านการอนุรักษ์ พื้นที่ชุ่มน้ำและนกกระเรียนพันธุ์ไทย ที่มีความเชื่อมโยงกับวิถีชุมชนและองค์ความรู้ท้องถิ่น ที่สอดคล้องกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อม
เดินทางต่อไป “ชุมชนบ้านสวายสอ” วิถีชุมชน “คนและนกกระเรียนพันธุ์ไทย” ชุมชนท่องเที่ยวแนวกสิกรรมที่มีความอุดมสมบูรณ์เคียงคู่กับธรรมชาติบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก แหล่งอาศัยของนกกระเรียนพันธุ์ไทยที่มาของข้าวหอมมะลิอินทรีย์มาตรฐาน GI ในชื่อ ”ข้าวสารัช” รวมถึงการสัมผัสการรับประทานอาหารท้องถิ่นตามสไตล์ “เถียงนาเชฟเทเบิ้ล” “นาเฮา ข้าวนกกระเรียน” แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรในชุมชนบ้านสวายสอ ลิ้มลองอาหารเมนูพื้นบ้าน จากแม่ครัวของชุมชนโดยใช้วัตถุดิบในพื้นที่และกินบนเถียงนา ซึ่งเป็นมื้ออาหารกลางวันที่แสนอร่อยและประทับใจอีกหนึ่งมืัอ ที่กินแล้วสบายใจ อาหารปลอดสารและปลอดภัย
ชุมชนบ้านสวายสอหมู่บ้านสวายสอ เป็นหมู่บ้านอินทรีย์ (Organic Village) ของบุรีรัมย์ มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ป่าไม้ ห้วย หนอง คลอง บึง สัตว์น้อยใหญ่ และยังเป็นที่อยู่อาศัยของ “นกกระเรียนพันธุ์ไทย” หรือชาวบ้านเรียกว่า “นกเขียน”
หมู่บ้านนี้เป็นหนึ่งในเครือข่ายเกษตรอินทรีย์กับการอนุรักษ์นกกระเรียนพันธุ์ไทย โดยปล่อยให้นกกระเรียนเข้ามาอาศัยอยู่กินในพื้นที่การเกษตร ถือเป็นดัชนีวัดความปลอดภัยของพืชพันธุ์ในพื้นที่ เนื่องจากนกกระเรียนจะอยู่รอดได้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีสารเคมีเท่านั้น เมื่อนกกระเรียนอยู่ได้ คนกินข้าวก็อยู่ได้ และยังสร้างรายได้จากสินค้าปลอดภัยและการท่องเที่ยวให้ชาวบ้านได้อีกทาง คน สัตว์ และพืชพันธุ์ อยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน
ที่นี่..เขามีบ้านพักโฮมสเตย์และมีรถรับส่งพามากินข้าวที่เถียงนา “สไตล์เถียงนาเชฟเทเบิ้ล” ด้วยนะ สนใจโทรถามได้ที่ 085494 3250
ความอิ่มอร่อยยังไม่สิ้นสุด คณะเดินทางกลับสู่ตัวเมืองบุรีรัมย์อีกครั้งพร้อมกับสายฝนที่กำลังโปรยปราย เพื่อมุ่งไปยัง “สถานีรถไฟบุรีรัมย์” ซึ่งเป็นสถานีหนึ่งของการรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดทำการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2468 ตั้งอยู่ใจกลางเมืองของจังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็ยังมีผู้คนมากมายที่เดินทางโดยรถไฟไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวบ้านในท้องถิ่น ฯลฯ ที่เดินทางไปท่องเที่ยวที่ต่างๆ ทั้งในจังหวัดบุรีรัมย์และต่างจังหวัด
และอีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ “ลูกชิ้นยืนกิน” เป็นกิจกรรมที่นำเอกลักษณ์และวัฒนธรรมการกิน “ลูกชิ้น” ของชาวบุรีรัมย์ ณ บริเวณหลังสถานีรถไฟซึ่งมีมานานกว่า 50 ปีมาส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดบุรีรัมย์ ได้มีการรวบรวมร้านลูกชิ้นร้านเก่าแก่จากหลังสถานีรถไฟหลากหลายล้านมารวมกัน เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่สนใจได้มาร่วมรับประทานและซื้อเป็นของฝาก ซึ่งครั้งหนึ่ง น้องลิซ่า ศิลปินระดับโลกชื่อดังของไทย ก็เคยมายืนกินลูกชิ้นที่นี่ ปลุกกระแส ของลูกชิ้นยืนกินให้โด่งดังไปทั่วจนเป็นที่รู้จัก
จากนั้นเดินทางไปสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 1 อำเภอเมืองบุรีรัมย์พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชถือว่าเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญในจังหวัดบุรีรัมย์สร้างเมื่อพ.ศ 2539 เพื่อเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 1 ประถมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีผู้ทรงก่อตั้งเมืองบุรีรัมย์เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระยามหากษัตริย์ศึก ปัจจุบันได้มีการสร้างฉัตร 9 ชั้นจำนวน 360 ต้นรอบพระบรมราชานุสาวรีย์เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกถึงในพระมหากรุณาธิคุณ
เดินทางข้าที่พัก ณ Play La Ploen Boutique Resort and Adventure Camp พร้อมรับประทานอาหาร มื้อค่ำและร่วมงานเลี้ยงต้อนรับจาก ททท.สำนักงานบุรีรัมย์ ททท.ภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยคุณสมฤดี จิตรจง อดีตรองผู้ว่าฯ ททท. ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาของที่นี่ ให้การต้อนรับคณะฯ พร้อมด้วยคุณอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย( ททท.), คุณศิวฤทธิ์ ศรีบุญเรือง ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานบุรีรัมย์, คุณภูวดล เลาะฟอ การตลาด ททท.สำนักงานบุรีรัมย์, โดยมีคุณประณัย สายชมภู กรรมการผู้จัดการ เพ ลา เพลิน และคุณยุวธิดา ผลจันทร์ Personal Asst.President เพ ลา เพลิน ร่วมดูแลและอำนวยความสะดวกอย่างใกล้ชิด รวมถึงในกิจกรรมต่างๆ ของเพลาเพลินในวันรุ่งขึ้นอีกด้วย
Day 3 : ณ เพ ลา เพลิน คณะนั่งรถรางชม อุทยานเรียนรู้เพลาเพลิน อุทยานดอกไม้ ชมศูนย์สุขภาพและกิจกรรม workshop ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ณ เพลาเพลิน
เพ ลา เพลิน จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ที่อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นสถานที่พัฒนาผู้เรียน นอกห้องเรียน และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้บนพื้นที่กว่า 400 ไร่ เริ่มเปิดให้บริการเมื่อเดือนมกราคม 2556 ภายใต้แนวคิด “เที่ยว อย่างมีความสุข สนุกกับการเรียนรู้” โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มเยาวชนนักเรียนนักศึกษาเป็นเป้าหมายหลักเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และทักษะให้กว้างไกล มีกิจกรรมผจญภัยที่สนุกสนาน ปลอดภัย เพื่อฝึกทักษะการทำงานเป็นทีม ความเป็นผู้นำและความคิดริเริ่ม ฯลฯ รวมถึงมีการให้บริการทางภาคการท่องเที่ยวพักผ่อนที่ครอบคลุมเป้าหมายที่เป็นครอบครัวบุคคลทั่วไปที่สนใจการท่องเที่ยวพักผ่อน รวมไปถึงกลุ่มหน่วยงานและองค์กรที่สนใจจัดประชุมสัมมนา โดยมีห้องประชุม และห้องพักที่ทันสมัยให้ความสะดวกสบายไว้บริการอย่างครบถ้วน
โดยแบ่งเป็นโซนต่างๆ อาทิ โซนที่พักห้องประชุมสัมมนาและกิจกรรม Adventure ศูนย์นิทรรศการ และมีทำกิจกรรม workshop ให้กับเด็กหรือผู้ที่สนใจได้เรียนรู้สามารถฝึกเป็นอาชีพได้ เช่น ผ้ามัดย้อม ก้อนดินของพ่อ สวนถาด สบู่ เพลินวารีสปา การทำสปาแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน และสมุนไพรไทย มีแหล่งช้อปปิ้ง “จอยส์ ชัอปปิ้ง เพลส” แหล่งช้อปปิ้งที่รวมความนำสมัยในรูปแบบความเป็นวัฒนธรรมอีสานใต้ และรวมสิ่งของการทำและผลิตจากชาวบ้าน รวมถึงของพื้นถิ่น เพื่อเพิ่มมูลค่าด้วยเอกลักษณ์สีสันที่ทันสมัย ผ้าไทย ผ้าถิ่นของบุรีรัมย์ พร้อมอาหารและเครื่องดื่มไว้บริการ
นอกจากนี้เพลาเพลินยังมี อาคารด้วยรักและภักดี และอุทยานไม้ดอก เพ ลา เพลิน (FLORA) ในส่วนของอาคารด้วยรักและภักดี โดยเริ่มชมจากโถงทางเข้าที่มีภาพเขียนสีน้ำมันพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขนาดใหญ่ ชมนิทรรศการแนะนำของเพลาเพลิน ณ จุดนี้ คณะได้ทำกิจกรรมทำยาดมกลิ่นลาเวนเดอร์กันอีกด้วย หลังจากเพลิดเพลินกับการชมชมอุทยานไม้ดอก เพลาเพลิน ในพื้นที่มากกว่า 100 ไร่ นับเป็นอุทยานไม้ดอกแห่งแรกและแห่งเดียวในดินแดนอีสานใต้แดงพันธุ์ไม้ในหมู่อาคาร 6 โรงเรือนอาคารที่จัดแสดงและภูมิทัศน์โดยรอบจัดในรูปแบบเอกลักษณ์อีสานใต้ซึ่งถือว่าเป็นแห่งแรกของประเทศไทย
จากนั้นจึงนั่งรถรางไปอาคารรักพ่อพอเพียง Arokaya Herbs Wellness Sala มีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพจัดจำหน่ายที่นี่เป็นศูนย์กลางการจัดกิจกรรมและถ่ายทอดเรื่องราวศาสตร์พระราชาทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ ด้านในจัดนิทรรศการ “พระอัจฉริยภาพทั้ง 9 ประการของในหลวงรัชกาลที่ 9” มีการแสดงสมุนไพรไทยเพื่อการใช้งานในรูปแบบต่างๆ
จากนั่นนั่งรถรางไปชมสถานที่ผลิตสุราแช่พื้นเมือง หรือสาโทที่หลายคนรู้จัก ที่นี่นอกจากคณะจะได้ความรู้จากวิทยากรในการผลิตแล้ว ยังได้ชิมรสชาติของสาโทกัน หากใครสนใจก็สามารถซื้อติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของฝากได้อีกด้วย ก่อนปิดท้ายด้วยการแวะข้อปปิ้งที่ “จอยส์ ชัอปปิ้ง เพลส” แหล่งช้อปปิ้งที่ถูกใจใครหลายคน
ก่อนเดินทางกลับ คณะเดินทางต่อไปยังอำเภอพิมายจังหวัดนครราชสีมา แวะชม “อุทยานประวัติศาสตร์หินพิมาย” ซึ่งเป็นศาสนสถานในพุทธศาสนานิกายมหายานที่มีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยมีอายุราว 1,000 ปีมาแล้ว เป็นปราสาทหินทรายสีขาวเทาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย
อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย เป็นอุทยานประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งของประเทศไทยภายใต้การดูแลของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เป็นปราสาทหินทรงขอมโบราณแบบบาปวน ตั้งอยู่ในอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ประกอบด้วยปราสาทหินในสมัยอาณาจักรขอมที่ใหญ่โตและงดงาม สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ราวพุทธศตวรรษที่ 16 เพื่อใช้เป็นเทวสถานของศาสนาพราหมณ์ และเปลี่ยนเป็นพุทธศาสนานิกายมหายานในเวลาต่อมา และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในอำเภอพิมาย และจังหวัดนครราชสีมา
คุณวรางคณา สุเมธวัน ประธานชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการทีองเที่ยว (ช.ส.ท.) กล่าวว่า ” การเดินทางทริป” สุขทันที ที่เที่ยวบุรีรัมย์” ของเรา เรากำลังอยู่ที่ปราสาทหินพิมาย ซึ่งอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จากวันที่ 5 – 7 มีนาคม รวมสามวัน เราได้สั่งสมประสบการณ์และเก็บสิ่งละอันพันละน้อยจากการเดินทาง เพื่อนำไปเผยแพร่เป็นประโยชน์แก่การท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ในจังหวัดบุรีรัมย์และภาคอีสานในพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งคุณค่า มีทรัพยากรการท่องเที่ยวมากมาย ที่จะให้พวกเรานำไปเผยแพร่ สิ่งที่เราได้พบอยากจะบอกว่าเป็นอันซีนของการท่องเที่ยวจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการไปชมพระอาทิตย์ตก 15 ช่องประตู ที่ปราสาทหินพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำ ปราสาทหินพิมาย และปราสาทหินอื่นๆ แม้จะเป็นสถานที่เก่าแก่ที่ทุกคนคงเคยไปเยี่ยมชมแล้ว
แต่วันนี้ได้กลับมาดูว่ากรมศิลปกรได้ดูแลรักษาเป็นอย่างดี เมื่อไปมองเทียบกับของประเทศอื่นๆ ต้องภูมิใจว่าของเราเป็นหนึ่งในโลกเหมือนกัน ไม่ด้อยในเรื่องศิลปะความงามและความอลังการ
ขอเชิญชวนพี่น้องคนไทยที่ผ่านมาทางภาคอีสานนี้ได้แวะเวียนมาเยี่ยมชมและมาชื่นชมกับความยิ่งใหญ่ของสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองไทยกันคะ” คุณวรางคณา ประธานชมรมฯ ช.ส.ท. กล่าวทิ้งท้าย
…………………………………………
www.indyreport.com