กรุงเทพฯ 28 มิถุนายน 2566 – ไทวัสดุ ผู้นำธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน ภายใต้ บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ปักหมุดขยายธุรกิจในพื้นที่ภาคอีสาน ทุ่มงบกว่า 340 ล้าน เปิดสาขาใหม่ที่จังหวัดเลย ซึ่งเป็นสาขาที่ 72 ของประเทศ โดยรวบรวมสินค้าวัสดุก่อสร้างของตกแต่งบ้านและซ่อมแซมบ้านครบวงจร บนเนื้อที่กว่า 16,000 ตร.ม. เพื่อรองรับดีมานด์ภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจก่อสร้าง และการท่องเที่ยวหลังเศรษฐกิจฟื้นตัว อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่มีความพร้อมในด้านคมนาคม ซึ่งเป็นจุดแข็งเชื่อมต่อผู้คนจากทั่วทุกภูมิภาคได้เดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น พร้อมด้วยช่องทางการค้าชายแดนถึง 6 ด่าน ที่เชื่อมการสัญจรประเทศไทยและสปป.ลาว อานิสงส์สำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ระหว่างประเทศ
นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ไทวัสดุเดินหน้าขยายสาขาเพื่อรองรับความต้องการด้านวัสดุก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ตามแผน โดยล่าสุดได้เปิดไทวัสดุ สาขาเลย ซึ่งเป็นสาขาที่ 72 ของประเทศ และเป็นสาขาที่ 15 ในภาคอีสาน ผ่านงบการลงทุน 340 ล้านบาท โดยจังหวัดเลยเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ศักยภาพทางเศรษฐกิจของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเริ่มมีการขยายตัวของทั้งภาคอุตสาหกรรมภาคบริการ การลงทุนของเอกชน และเป็นอีกหนึ่งเส้นทางการค้าระหว่างประเทศที่สำคัญ ทั้งนี้ในการขยายสาขาไทวัสดุบนพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้เปิดไปแล้วทั้งสิ้น 14 สาขาใน 12จังหวัด ได้แก่ สาขาสุรินทร์ สาขาบุรีรัมย์ สาขาสกลนคร สาขาขอนแก่น สาขาอุบลราชธานี สาขาร้อยเอ็ด สาขามหาสารคาม สาขามุกดาหาร สาขาอุดรธานี สาขาหนองบัวลำภู สาขาชัยภูมิ สาขานครราชสีมา สาขานครราชสีมา (หัวทะเล) และสาขาปากช่อง ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในทุกพื้นที่ ด้วยความครบครันของสินค้าวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน เช่นเดียวกับสาขาเลยที่ได้รวบรวมสินค้าแบรนด์ดัง คุณภาพดี ราคาคุ้มค่ากว่า 38,000 รายการ
“ไทวัสดุ สาขาเลย เป็นสาขาล่าสุดที่มุ่งเข้ามาเสริมกำลังให้กับไทวัสดุสาขาอื่น ๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมั่นใจว่าจะสามารถเข้ามาดึงกำลังซื้อจากชาวจังหวัดเลยกว่า 230,763 ครัวเรือนและบริเวณโดยรอบได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้จังหวัดเลยถือเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพทั้งทางด้านเศรษฐกิจการค้าและการท่องเที่ยวสูง ด้วยปัจจัยทางด้านภูมิประเทศที่มีพรมแดนติดกับสปป.ลาว ประกอบกับมีธรรมชาติและสภาพอากาศที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว สามารถดึงดูดผู้ประกอบการในหลายภาคส่วนให้เข้ามาลงทุนในจังหวัดเพิ่มมากขึ้นหลังเศรษฐกิจโดยรวมเริ่มฟื้นตัว ส่งผลให้ธุรกิจการก่อสร้างภายในพื้นที่เติบโตควบคู่กันอย่างมีนัยสำคัญ สำหรับไทวัสดุสาขาเลย มีสินค้าและบริการที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกคน ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง สินค้าอุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ อุปกรณ์การเกษตร เครื่องมือช่าง กระเบื้อง เฟอร์นิเจอร์ เคมีภัณฑ์ ของตกแต่งบ้าน รวมทั้งอุปกรณ์สำหรับโรงแรมและร้านอาหาร”
นายสุทธิสาร กล่าวเพิ่มเติมว่า ไทวัสดุไม่เพียงแต่เข้ามาเพื่อดำเนินธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่ยังมุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดเลย ผ่านการจ้างงานคนในพื้นที่กว่า 300 อัตรา รวมถึงการสนับสนุนชุมชนผ่านกิจกรรมเพื่อสังคม อาทิ การร่วมกับผู้ร่วมค้าเพื่อสมทบทุนบริจาคให้แก่โรงพยาบาลเลย และการทำนุบำรุงทาสีกำแพงวัดท่าคก อำเภอเชียงคาน
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าการเปิดไทวัสดุ สาขาเลย จะสามารถส่งเสริม Ecosystem การดำเนินธุรกิจภายในจังหวัดและภูมิภาคให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ในปี 2566 ไทวัสดุตั้งเป้าเปิด 10 สาขา ซึ่ง ณ ปัจจุบันเดือนมิถุนายนนี้ ได้เปิดสาขาใหม่แล้ว 7 สาขา ได้แก่ 1. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขารังสิต คลอง 4
2. ไทวัสดุ สาขาโคราช หัวทะเล 3. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาภูเก็ต ฉลอง 4. ไทวัสดุ สาขากำแพงเพชร
5. ไทวัสดุ สาขาชัยนาท และ 6. ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาเมืองเอก 7. ไทวัสดุ สาขาเลย และยังมีแผนเปิดสาขาอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ปีนี้มีสาขารวมครอบคลุมทุกพื้นที่สำคัญทั่วประเทศทั้งสิ้น 80 สาขาตามแผนที่วางไว้
………………………………………………………………………………………………………
📍www.indyreport.com