🔴 อนาคต “กล้วยด่างไทย” สดใส ความต้องการจากต่างประเทศพุ่งสูง

 

อนาคต​ “กล้วยด่างไทย” สดใส ความต้องการตลาดต่างประเทศพุ่งสูงต่อเนื่อง หลังผู้เพาะพันธุ์และเกษตรกรไทยพัฒนาสายพันธุ์สร้าง “กล้วยแดงสยาม” กลายเป็นสุดยอด “กล้วยด่างแดง” ของโลก เป็นพืชเศรษฐกิจสร้างรายได้เข้าประเทศนับพันล้านบาท

30 ก.ค.65​ นายศุภกฤษ มานิ่ม ประธานชมรมกล้วยแดงสยามแห่งประเทศไทย เปิดเผยในงาน “รวมพลคนรักกล้วยแดงสยาม” ที่จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตว่า กระแสความนิยมการเพาะพันธุ์กล้วยด่างแดง ยังคงพุ่งสูงสวนกระแสเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง หลังผู้เพาะเลี้ยงไทยได้พัฒนาสายพันธุ์จนเกิดสายพันธุ์ใหม่ที่มีชื่อว่า “กล้วยแดงสยาม” (Musa Siam ruby) มีสีสันและลวดลายที่สวยงามโดดเด่นมากกว่าพันธุ์พื้นเมืองดั้งเดิม ทำให้กล้วยด่างแดงสยาม กลายเป็นสายพันธุ์ที่หายาก เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งในประเทศอินโดนีเซีย ต้นกำเนิดกล้วยด่างแดง ได้กลายเป็นหนึ่งในตลาดหลัก ที่มีการนำเข้า “กล้วยแดงสยาม” จากไทยที่มีมูลค่ามากที่สุดรองจากญี่ปุ่น

ประธานชมรมกล้วยแดงสยามแห่งประเทศไทย บอกว่า ที่ผ่านมาสมาชิกของชมรมฯ หลายฟาร์ม ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ได้ร่วมมือและใช้พยายามอย่างหนักที่ยกระดับมาตราฐานกล้วยแดงสยาม โดยร่วมกันพัฒนาสายพันธุ์กล้ายด่างแดง จนได้ “กล้วยแดงสยาม” ที่มีความสวยงามจนมีชื่อเสียงในระดับโลก

ส่วนลักษณะและความพิเศษของสายพันธุ์ของกล้วยแดงสยาม ที่แตกต่างจากกล้วยด่างแดงทั่วไป คือ กล้วยแดงสยามนั้นสามารถพัฒนาลวดลายที่สวยงามได้ตลอดเวลาจากแม่พันธุ์ กระตุ้นให้มีความต้องการในลวดลายที่แปลกใหม่อยู่เสมอ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้กระแสตอบรับกล้วยแดงสยามยังคงพุ่งแรงสดใส สวนสภาวะเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศนั้น

นอกจากนี้สีสันที่ปรากฏอยู่บนใบ ยังทำให้กล้วยแดงสยามเป็นไม้มงคล ที่เชื่อกันว่าจะช่วยเสริมบารมีและความมั่งคั่งให้กับผู้ที่ครอบครองอีกด้วย โดยสีแดงหมายถึงสีแห่งความสุข โชคลาภ และความสำเร็จ สีเขียวสื่อถึงความมั่งคั่งและเงินทอง และสีทองแทนสีแห่งจักรพรรดิและอำนาจ บารมี

 

ล่าสุดชมรมฯ อยู่ระหว่างการดำเนินขอจดทะเบียนพันธุ์พืชใหม่ กับกรมวิชการการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และจดทะเบียนทะเบียนพันธุ์พืชใหม่และความคุ้มครองในต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปีนี้


นายศุภกฤษ บอกด้วยว่า จากการรวบรวมมูลค่าการซื้อขายกล้วยแดงสยามของสมาชิก ในแต่ละเดือนมีการซื้อ-ขายไม่น้อยกว่า 450 ล้านบาท และมีการส่งออกราว 100 ล้านบาท โดยมีตลาดใหญ่คือ ประเทศญี่ปุ่น อินโดนีเซีย จีน และเริ่มขยายไปยังอเมริกาและยุโรป

ทั้งนี้ ยังมีคำสั่งซื้อที่รอการส่งมอบอีกจำนวนมาก เนื่องจากปริมาณกล้วยแดงสยามระดับคุณภาพดี ยังมีไม่เพียงพอกับความต้องการ ทางชมรมฯ จึงอยากสนับสนุนให้ผู้ที่รักกล้วยด่าง หมั่นดูแลเอาใส่ใจ คัดสายพันธุ์คุณภาพ เชื่อว่า นอกจากความเพลินเพลินที่จะได้รับแล้ว ยังสามารถสร้างรายได้ บางรายกลายเป็นอาชีพหลักเลี้ยงดูครอบครัวได้

.…………………….…………………………

📍www.indyreport.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *