🔴 เอสซีจี มุ่งสู่การเป็นผู้นำบรรจุภัณฑ์ครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน เข้าถือหุ้นใหญ่ใน Fajar ผู้นำธุรกิจกระดาษบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ของอินโดนีเซีย

 

 

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม2562 เอสซีจีเดินหน้าตามกลยุทธ์สร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียนลงทุนกว่า2.1 หมื่นล้านบาทเข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในPT. Fajar Surya Wisesa Tbk. หนึ่งในผู้นำธุรกิจกระดาษบรรจุภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอินโดนีเซียพร้อมรองรับตลาดที่มีประชากรสูงถึง270 ล้านคนและมีอัตราการเติบโตของตลาดบรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับเป็นการลงทุนครั้งสำคัญที่จะช่วยสร้างโอกาสการเติบโตของธุรกิจแพคเกจจิ้งเอสซีจีในอนาคต    

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่เอสซีจี  เปิดเผยว่า เอสซีจียังคงเดินหน้าตามกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งมั่นคงในระยะยาว(Long-term Growth)  ด้วยการขยายฐานการลงทุนในภูมิภาคอย่างต่อเนื่องล่าสุดธุรกิจแพคเกจจิ้งเอสซีจีได้เข้าลงทุนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สัดส่วนร้อยละ55 ในPT. Fajar Surya Wisesa Tbk. (หรือ“Fajar”) ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจกระดาษบรรจุภัณฑ์และเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซียจากผู้ถือหุ้นปัจจุบันคิดเป็นมูลค่าประมาณ9.6 ล้านล้านรูเปีย(ประมาณ21,150 ล้านบาทหรือเทียบเท่า665 ล้านดอลลาร์สหรัฐคาดว่าจะดำเนินธุรกรรมแล้วเสร็จในไตรมาสที่3 ของปี2562 โดยใช้แหล่งเงินทุนจากภายใน  นอกจากนี้เพื่อรองรับโอกาสในการขยายธุรกิจแพคเกจจิ้งในอนาคตเอสซีจีอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการเพิ่มทุนของธุรกิจแพคเกจจิ้งซึ่งคาดว่าการศึกษาจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี2562 นี้

นายรุ่งโรจน์กล่าวต่อไปว่า การเข้าถือหุ้นข้างมากในFajar จะช่วยขยายการเติบโตของเอสซีจีในภูมิภาคอาเซียน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดอินโดนีเซียซึ่งธุรกิจแพคเกจจิ้งมีโอกาสเติบโตอย่างมากในอนาคตโดยหากพิจารณาจากจำนวนประชากร270 ล้านคนและอัตราการใช้กระดาษบรรจุภัณฑ์ต่อคนของอินโดนีเซียแล้วศักยภาพการเติบโตของตลาดกระดาษบรรจุภัณฑ์ในอินโดนีเซียสูงกว่าไทยเกือบ3 เท่าตัว

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาธุรกิจแพคเกจจิ้งเอสซีจีมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องสามารถปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันที่รุนแรงได้อย่างรวดเร็วรวมถึงมีขีดความสามารถสูงและมีศักยภาพในการขยายธุรกิจครอบคลุมอาเซียนโดยมีโรงงานตั้งอยู่ที่เวียดนามมาเลเซียอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นตลาดที่เติบโตอย่างมากโดยมุ่งขับเคลื่อนธุรกิจด้วยการเป็นผู้ให้บริการบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร(Total Packaging Solutions Provider) รวมทั้งการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้สินค้าบริการและกระบวนการผลิตเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและการใช้งานของผู้บริโภคตลอดจนการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน(Circular Economy) ตามแนวทางของเอสซีจีหรือSCG Circular Way

ธุรกิจแพคเกจจิ้งเอสซีจีในปี2561 มีรายได้จากการขาย87,255 ล้านบาทโดยมีกำไรสำหรับปี6,319 ล้านบาทขณะที่Fajar ในปี2561 มียอดขายกระดาษบรรจุภัณฑ์รวม1.38 ล้านตันคิดเป็นมูลค่า9.94 ล้านล้านรูเปีย(ประมาณ21,900 ล้านบาท) และมีกำไรสำหรับปีประมาณ1.41 ล้านล้านรูเปีย(ประมาณ3,100 ล้านบาท)  

 

📍www.indyreport.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *